Pediatric Dyslipidemia
Key points (ฉบับย่อ)
- Pediatric
dyslipidemia = ความผิดปกติของ TC/LDL-C/non-HDL-C/TG/HDL-C
ที่เริ่มตั้งแต่วัยเด็ก ส่งผลต่อ ASCVD ตลอดชีวิต
- ค่ามาตรฐานเปลี่ยนตามอายุ/เพศและ ลดชั่วคราวช่วงวัยรุ่น
(puberty dip) → หลีกเลี่ยงคัดกรองช่วงอายุ 12–16 ปีถ้าไม่มีปัจจัยเสี่ยง
- นิยาม
- TC > 200 mg/dL (ปกติ < 170)
- LDL-C
> 130 mg/dL (ปกติ < 110)
- non-HDL-C
> 145 mg/dL (ปกติ < 120)
- HDL-C
< 40 mg/dL (ปกติ > 45)
- TG >
100 mg/dL (< 10 ปี; ปกติ <
75) หรือ > 130 mg/dL (> 10 ปี; ปกติ < 90)
- ความชุกในสหรัฐฯ: เด็ก 6–19 ปี ~20%
มีค่าผิดปกติอย่างน้อย 1 รายการ; เกี่ยวข้องกับอ้วน แต่ พบได้แม้น้ำหนักปกติ
- สาเหตุหลัก: อาหาร (saturated/trans fats, น้ำตาลสูง), โรค/ยา (อ้วน, DM2, hypothyroid, nephrotic, ยาบางชนิด),
พันธุกรรม (FH: LDLR/PCSK9/APOB; polygenic;
FCS/LPL deficiency)
ทำไมต้องคัดกรอง
- ตรวจพบ FH เร็ว และเริ่มรักษาได้
- หลักฐานชี้ความเชื่อมโยงไขมันเด็กกับ ASCVD ผู้ใหญ่ และ tracking เข้าสู่วัยผู้ใหญ่
- Family
history เพียงอย่างเดียวไวต่ำ → ต้องพึ่ง universal
screening ด้วย
แนวทางคัดกรอง (ใคร/เมื่อ/ตรวจอะไร)
- มีปัจจัยเสี่ยง ASCVD (เช่น DM,
CKD, chronic inflammatory disorder, obesity, FHx ฯลฯ):
เริ่มคัดกรองตั้งแต่พบความเสี่ยง (หลังคุมน้ำตาลแล้วใน DM), ติดตามทุก 1–3 ปี
- ญาติใกล้ชิดมี genetic lipid disorder (เช่น FH):
ทำ cascade testing (ตรวจไขมัน
หรือยืนยันยีนที่พบในครอบครัว)
- ไม่มีปัจจัยเสี่ยง: คัดกรองแบบทั่วไป 2
ครั้ง → อายุ 9–11
ปี และ 17–21 ปี; งดคัดกรอง 12–16 ปีถ้าไม่มีความเสี่ยง
- ชนิดการตรวจ: เริ่มได้ด้วย nonfasting
(สะดวก) → ถ้าผิดปกติให้ทำ fasting lipid profile
- พิจารณาใช้ non-HDL-C เป็นตัวคัดกรองที่ดี
- การคำนวณ LDL-C: Friedewald ใช้ได้เมื่อ TG
< 400; Sampson-NIH ใช้ได้ถึง TG ~800; ถ้าสูงกว่านี้พิจารณา direct LDL-C
- การตัดสินใจรักษาอ้างอิง ค่า fasting
หลังคัดกรองแล้วทำอะไร (workup/ติดตาม)
- ผลปกติ: กลับตามรอบอายุที่แนะนำ
- Borderline:
เน้น heart-healthy lifestyle; มัก ทบทวน
1 ปี
- ผิดปกติ: ยืนยันด้วย fasting 2 ครั้ง ห่างกัน 2 สัปดาห์–3
เดือน + เริ่มให้คำแนะนำเรื่องพฤติกรรมทันที
- ค้นหาสาเหตุรอง: ซัก/ตรวจร่างกาย + labs
ตามข้อบ่งชี้ (ALT/AST, กลูโคส,
BUN/Cr, TSH, ±hCG) และทบทวนยา/แอลกอฮอล์
จุดต่างเด็ก vs ผู้ใหญ่
(สำคัญตอนส่งต่อ/เปลี่ยนวัย)
- เด็ก ไม่มี risk score ที่ผ่านการรับรอง
→ ประเมินเชิง lifetime risk ไม่ใช่ 10-year
risk
เช็กลิสต์ 1 หน้าในคลินิก 1. สกรีนตามช่วงอายุ/ความเสี่ยง
→ เริ่ม nonfasting (ดู non-HDL-C) 2. ผิดปกติ → fasting lipid profile ×2 + เริ่ม lifestyle 3. ตรวจสาเหตุรอง + ทบทวนยา 4. คิดถึง FH/FCS เมื่อ LDL-C
สูงมาก/TG >1000 → ส่งต่อ 5. วางแผนติดตาม 1–3 เดือนแรก
(กรณีผิดปกติ) แล้วตามระยะยาวตามความเสี่ยง หมายเหตุ: Lp(a)/apoA/B ไม่อยู่ในนิยามมาตรฐานของเด็ก แต่มีบทบาทต่อพยาธิกำเนิด atherosclerosis—พิจารณาตรวจในรายสงสัยความเสี่ยงสูง/ครอบครัว
FH. |
Management
เหตุผลที่ต้องรักษา
- LDL-C สูงตั้งแต่วัยเด็ก → เร่งกระบวนการ atherosclerosis และเสี่ยง ASCVD
ก่อนวัย
- หลักฐานชัดที่สุดในกลุ่ม FH: ลด LDL-C
ได้ → ชะลอสัญญาณเส้นเลือด (เช่น CIMT (carotid intima-media
thickness)) และคาดว่าจะลดเหตุการณ์ ASCVD ระยะยาว
เกณฑ์ส่งต่อผู้เชี่ยวชาญไขมันเด็ก
- โรคพันธุกรรมไขมัน ที่ทราบ/สงสัย (FH
ฯลฯ)
- สงสัย FH: LDL-C > 160 mg/dL พร้อมประวัติครอบครัว
ASCVD ก่อนวัย หรือ LDL-C > 190 mg/dL
แม้ไม่มีประวัติ (ยืนยันซ้ำแล้ว ไม่ตอบสนองต่อปรับพฤติกรรม)
- LDL-C
> 400 mg/dL →
นึกถึง HoFH/HeFH รุนแรง ต้องส่งด่วน
- โรคเสี่ยงสูง ที่คุมโรคพื้นฐานดีแล้วแต่ยังต้องใช้ยา
(LDL-C > 130)
- TG
> 1000 mg/dL (เสี่ยงตับอ่อนอักเสบ/โรคพันธุกรรม)
การจัดชั้นความเสี่ยง
(ใช้กำหนดเป้าหมาย/การเริ่มยา)
- High-risk:
HoFH, DM, ESRD, Kawasaki with coronary aneurysm, solid organ
transplant vasculopathy, post stem cell transplant, multiple comorbidities
- Moderate-risk:
BMI > 35 หรือ > 99th
percentile, HT > 130/85 หรือ > 95th
percentile, HeFH, CKD, AS, post chest RT, > 3 risk factor
- At-risk/isolated
hypercholesterolemia: obesity, IFG, FHx of premature CVD, parent
DLP/TC > 240, smoker, white coat HT, chronic inflammation, HIV, Kawasaki
with regressed coronary aneurysm, cardiomyopathy, CHD, post cardiotoxic
CMT, depression/bipolar
แนวทางรักษา “LDL-C สูง”
เด็ก < 10 ปี
- หลักคือ ปรับพฤติกรรม; พิจารณาเริ่มยา ถ้า
High-risk/HoFH/ประวัติครอบครัวแรงมาก
อายุ > 10 ปี (ยึดค่าเฉลี่ยจาก fasting >
2 ครั้ง ห่าง 2 สัปดาห์–3 เดือน)
- High-risk:
ถ้า LDL-C > 130 → เริ่ม statin
+ lifestyle พร้อมกัน (ยกเว้น DM ที่คุมไม่ดี
ให้คุมน้ำตาลก่อน 3–6 เดือน)
- เป้าหมาย: LDL-C < 100 mg/dL
- Moderate-risk:
เริ่ม lifestyle →
ถ้า LDL-C ยัง >
160 หลัง 3 เดือน → เริ่ม
statin
- เป้าหมาย: <130 mg/dL
- At-risk/ไม่มีปัจจัยร่วม: เริ่ม lifestyle
→ ถ้า LDL-C
ยัง > 160 หลัง 6
เดือน → เริ่ม statin
- เป้าหมาย: <130 mg/dL
- ยัง > 190 mg/dL แม้ปรับแล้ว
→ เริ่ม/เร่ง statin และ ส่งต่อ
Heart-healthy lifestyle (ทำกับทุกราย)
- อาหาร: ไขมันรวม≈30%
พลังงาน, อิ่มตัว < 10%
(ถ้าไม่พอ ลดเหลือ < 7%), เลี่ยง
trans-fat, เพิ่มใยอาหาร/ผักผลไม้/ธัญพืชไม่ขัดสี,
เน้น mono-/poly-unsat
- เสริมอาหาร: plant sterol/stanol ช่วยลด LDL-C
เพิ่มอีกเล็กน้อย (ลดการดูดซึม vitamin ควรเสริมวิตามินรวม);
ไม่แนะนำ red yeast rice/กระเทียม;
fish oil อาจเพิ่ม LDL (ใช้เฉพาะภาวะ
TG สูง ตามด้านล่าง)
- กิจกรรม: ออกแรงระดับแนะนำตามวัยทุกวัน;
ควบคุมน้ำหนัก/การนอนคุณภาพ
- หลีกเลี่ยงนิโคติน/ควันบุหรี่ (ให้คำปรึกษาเลิกบุหรี่/เวป)
Statin: ยามาตรฐานรายแรกในเด็ก >
10 ปี
- ตัวเลือก: atorvastatin/rosuvastatin ใช้บ่อย
(ทั้งหมดมีขนาดตามตารางมาตรฐาน)
- เริ่มขนาดต่ำ วันละครั้ง (มักให้ก่อนนอน) → ไตเตรตทุก ~4
สัปดาห์จนถึงเป้าหมาย/ขนาดสูงสุดที่ทนได้
- ตรวจพื้นฐานก่อนเริ่ม: Fasting lipid, CK, ALT, กลูโคส/A1C, β-hCG
หากจำเป็น
- ติดตามหลังเริ่ม ~4 สัปดาห์:
Fasting lipid, ALT, กลูโคส/A1C → จากนั้น ทุก
6 เดือน เมื่อคงที่
- อาการข้างเคียงพบได้น้อย (myopathy, เอนไซม์ตับ,
DM ชนิด 2 เพิ่มเล็กน้อย); ระวัง ยาที่มีปฏิกิริยา/น้ำเกรพฟรุต; หลีกเลี่ยงในตั้งครรภ์/ให้นม
→ ให้คำปรึกษาเรื่องคุมกำเนิดในวัยรุ่นหญิง
- จัดการไม่ถึงเป้าหมาย/ผิดปกติทางแลบ: เพิ่มขนาดทีละขั้น;
ถ้าแลบผิดปกติชัด ให้หยุดชั่วคราว–ประเมินซ้ำ
แล้วพิจารณาเริ่มใหม่ด้วยการเฝ้าระวังใกล้ชิด
Second-line / Add-on (ทำร่วมผู้เชี่ยวชาญ)
- Ezetimibe:
ตัวเลือกเสริมอันดับแรก (ปลอดภัย/เพิ่มการลด LDL-C)
- Bile
acid sequestrants: ลด LDL-C 10–20% แต่
GI side effects สูง/การใช้ยาร่วมยุ่งยาก
- ไม่แนะนำนิอาซิน ตามปกติ
- กรณี FH รุนแรง: PCSK9 inhibitors
(evolocumab/alirocumab), evinacumab, lomitapide, bempedoic acid, LDL
apheresis (โดยผู้เชี่ยวชาญ)
- เลี่ยง statin + fibrate ร่วมกันเว้นจำเป็นมาก
(เสี่ยงกล้ามเนื้อ)
การดูแล “ไตรกลีเซอไรด์สูง”
นิยาม: <10 ปี >
100 mg/dL; อายุ 10–19 ปี > 130
mg/dL
- TG ไม่ใช่ตัวทำนาย ASCVD โดยตรง แต่เชื่อมโยงกับอ้วน/DM/ภาวะ atherogenic
อื่น (non-HDL-C/apoB สูง)
- หัวใจหลักคือ lifestyle: ลดคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยว/น้ำตาล,
คุมพลังงาน, ลดไขมันอิ่มตัว, เพิ่มกิจกรรม, ลดน้ำหนัก
- ข้อบ่งชี้เริ่มยา/ส่งต่อ
- TG >
600–1000 mg/dL (เสี่ยงตับอ่อนอักเสบ) → พิจารณายา
+ จำกัดไขมันในอาหารเข้ม และส่งต่อ
- HyperTG
ปฐมภูมิ เฉลี่ย > 400 mg/dL
- TG
150–399 mg/dL ร่วม non-HDL-C > 145
mg/dL ที่คงอยู่แม้ปรับ lifestyle/คุม
LDL ด้วย statin แล้ว
- ตัวเลือกยา
- Statin:
ถ้า non-HDL-C/apoB/LDL-C สูงร่วม
(เป้าเน้นลดอนุภาค atherogenic)
- Omega-3
dose สูง (เช่น icosapent
ethyl 2–4 g/วัน) → ใช้เพื่อลด ความเสี่ยงตับอ่อนอักเสบ
ใน TG สูงมาก; หลักฐานในเด็กจำกัด
- Fibrate:
พิจารณาในวัยรุ่นที่ TG สูงมาก/ดื้อต่อการรักษา โดยไม่มี LDL/apoB สูงร่วม
(เฝ้าระวังไต/กล้ามเนื้อ; หลีกเลี่ยงร่วม statin
ถ้าเป็นไปได้)
- Niacin:
ไม่แนะนำทั่วไป
เป้าหมายการรักษา (LDL-C)
- High-risk:
<100 mg/dL
- Moderate-risk
/ At-risk: <130 mg/dL
เวิร์กโฟลว์สั้นๆ หน้าคลินิก 1. ยืนยันค่าผิดปกติด้วย fasting lipid ×2 2. เริ่ม lifestyle ทุกคน (+เริ่ม statin
ทันทีถ้า High-risk) 3. ตั้ง เป้าหมาย LDL ตามความเสี่ยง;
ไตเตรต statin ทุก ~4 สัปดาห์ 4. ไม่ถึงเป้า/ไม่ทนยา → เพิ่มขนาด/เพิ่ม ezetimibe/พิจารณา second-line และ ส่งต่อ
เมื่อเข้าเกณฑ์ 5. TG สูงมาก → จำกัดไขมัน +
พิจารณา omega-3/fibrate/statin ตามรูปแบบไขมัน และ เฝ้าระวังตับอ่อนอักเสบ ทุกรายควรประเมินครอบครัว (cascade) หากสงสัย FH
และทบทวนยาที่มีผลต่อไขมัน/ฮอร์โมนคุมกำเนิดซึ่งอาจดัน LDL/TG
ให้สูงขึ้น. |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น