Seasonal Influenza ในเด็ก
Epidemiology & Transmission
- การติดต่อ: droplets/close contact/fomites และ small-particle aerosols จากการหายใจก็เป็นไปได้
- Incubation:
1–4 วัน (เฉลี่ย 2 วัน) → transmissibility
สูง
- Viral
shedding
- A:
พีกที่ 24–48 ชม.แรก แล้วลดลง; โดยทั่วไปตรวจไม่พบหลัง 5–10 วันในภูมิคุ้มกันปกติ
- B:
bimodal (พีกก่อนอาการ ~48 ชม. และ 24–48
ชม.หลังเริ่มอาการ) → แพร่เชื้อได้ ก่อน มีอาการ
และหลายวันหลังจากนั้น
- ยืดนาน ในเด็กเล็กและ immunocompromised
- เด็กเป็นแหล่ง สำคัญ ต่อการแพร่กระจายในชุมชน
ภาระโรคในเด็ก (Burden)
- Attack
rate เด็ก <18 ปีต่างกันตามฤดูกาล
~10–40% (incidence อาการ ~9%)
- ส่งผลต่อ OPD/ED visits, admissions, การใช้ antibiotics, ขาดเรียน/งานของผู้ดูแล
- กลุ่มเสี่ยงหนัก/ซับซ้อน: เด็กอายุน้อยมาก
(< 2 ปี, โดยเฉพาะ < 6 เดือน),
เด็กมีโรคพื้นฐาน (โรคปอด/หัวใจ/ประสาท/เลือด/เบาหวาน/ตับ/ไต, ภูมิคุ้มกันบกพร่อง, อ้วน
ฯลฯ)
Clinical features (Uncomplicated influenza)
- Classic
triad: ไข้เฉียบพลัน, headache/myalgia/malaise + cough/sore
throat/rhinitis
- เด็กเล็ก: ไข้สูงกว่า, febrile seizure, GI symptoms
(n/v/d, เบื่ออาหาร) บ่อย; บางรายมี parotitis
- ตรวจร่างกาย: อาจไม่จำเพาะ (tachypnea, conjunctival
erythema, nasal injection/edema/discharge, cervical nodes)
- course
โดยทั่วไปหายภายใน ~1 สัปดาห์ แต่ cough/อ่อนเพลีย (“post-influenza asthenia”) อาจอยู่นานหลายสัปดาห์
- reinfection
ในฤดูกาลเดียวกัน เป็นไปได้ (เช่น A
แล้วตามด้วย B) →
วัคซีนยังคงสำคัญ แม้ฤดูกาลเริ่มไปแล้ว
Lab เบื้องต้น
- WBC ปกติ/ต่ำช่วงต้น โรค; WBC >15,000/µL → คิดถึง bacterial
superinfection
ภาวะแทรกซ้อน (Complications)
ENT
- Acute
otitis media 10–50% (มักเริ่มวันที่ 3–4 หลังอาการไข้)
Respiratory
- Pneumonia:
พบร่วมได้โดยเฉพาะ < 2 ปี/กลุ่มเสี่ยง; CXR: interstitial ~½,
alveolar ~¼, ผสม ~¼
- Asthma
exacerbation, respiratory failure, croup/tracheobronchitis
(เสี่ยง bacterial tracheitis), plastic
bronchitis (หายาก)
Secondary infections
- Bacterial
coinfection: S. pneumoniae, S. pyogenes, S. aureus (รวม MRSA) →
อาจรุนแรง/เร็ว
- สงสัยเมื่อ: อาการหนัก, แย่ลงหลังดีขึ้นช่วงสั้น,
ไม่ดีขึ้นหลัง antiviral 3–5 วัน,
ไข้กลับมาซ้ำภายใน 1–2 สัปดาห์
- พิจารณา PCV ลดเสี่ยง pneumococcal
pneumonia
CNS
- พบ ~8–10% ในผู้ป่วยเด็กที่ admit; สูงขึ้นใน severe influenza
- รวม febrile seizure, encephalopathy/encephalitis,
non-febrile seizure; รายงาน IAE (influenza-associated
encephalopathy) เพิ่มในฤดูกาลล่าสุดบางปี
- อื่น ๆ: acute cerebellar ataxia, transverse myelitis, GBS,
ADEM (พบได้น้อย)
Musculoskeletal
- Acute
myositis (เด่นปวดน่องมาก, CPK สูง,
myoglobinuria → AKI ได้) → พบกับ Influenza B มากกว่า;
mild transient myositis พบบ่อยกว่า
Cardiac
- Myocarditis/pericarditis
(ไม่บ่อย แต่รุนแรงได้; เคยเด่นกับ A(H1N1)pdm09)
Mortality (peds) – pearls
- ปัจจัยเสี่ยง: อายุน้อย (< 5 ปี
โดยเฉพาะ < 6 เดือน), underlying
high-risk, bacterial coinfection (S. aureus/S. pneumoniae/S. pyogenes),
สัดส่วน H3N2 สูงในชุมชน
- ราวครึ่งของการเสียชีวิตในเด็กเกิดในผู้ไม่มีโรคพื้นฐาน → ต้อง
high index of suspicion
รายงาน: การเสียชีวิตที่เกี่ยวข้อง
influenza ในเด็ก <18 ปี
ควรรายงานผ่านสาธารณสุขรัฐ/ประเทศตามระเบียบ
Diagnosis & Testing
เมื่อใดควรสงสัย/ทดสอบ
- ช่วงฤดูกาลระบาด: เด็กมี ไข้ + acute respiratory
illness, เด็กที่ exacerbation ของโรคปอดเรื้อรัง, community-acquired febrile pneumonia,
febrile infants, อาการทางประสาทร่วม, หรือ admitted ด้วยไข้ทางเดินหายใจ
- ทดสอบเมื่อ ผลจะมีผลต่อการรักษา/แยกกัก/ตรวจเพิ่ม/ให้วัคซีนผู้สัมผัส
- ไม่ต้องรอผล เพื่อเริ่ม antiviral
ในกลุ่มที่มีข้อบ่งชี้ (ดู management guideline ที่ใช้ในสถาบัน)
ลำดับความสำคัญของการตรวจ (respiratory
specimens)
1.
Molecular assays (preferred):
o RT-PCR
(single/multiplex): แยก A/B และ subtype
ได้; Sn ~86–100%
o Rapid
molecular assay (< 30 นาที): แยก A/B (ไม่ระบุ subtype); Sn สูงกว่า RIDT (rapid
test)
o หมายเหตุ: หลัง LAIV (live attenuated influenza vaccine) อาจตรวจพบ vaccine virus ชั่วคราว
2.
Antigen detection assays (ใช้ได้เมื่อไม่มี
molecular/ต้องการเร็ว แต่ Sn ต่ำกว่า):
o DFA/IFA
(moderate Sn, high Sp)
o Digital
immunoassays (DIA): Sn ~80–83% (สูงกว่า RIDT), Sp >
98%
o Traditional
RIDT: เร็ว (<15 นาที) แต่ Sn
ต่ำ → ยืนยันด้วย PCR หากผลลบแต่ clinical high-probability หรืออยู่ รพ.
3.
Viral culture: ไม่ใช้เพื่อการรักษาเฉียบพลัน
(ช้า) → ใช้ surveillance
4.
Serology: วิจัย
ไม่ช่วยตัดสินใจคลินิก
ตัวอย่างตรวจ & เวลา
- เก็บ เร็วที่สุด ภายใน 24–96 ชม.แรก (viral
load สูงสุด)
- Specimen:
nasopharyngeal (wash/aspirate/swab), mid-turbinate nasal swab (ยอมรับได้สำหรับ molecular และสบายกว่า NP),
ควร refrigerate/ส่งบน ice
- ในเด็ก/ผปค.ปกติ หลังวันที่ 5 ผลลบ ไม่ตัดโรค
เสมอ; ในทารก/เด็กเล็ก/immunocompromised
shedding ยืดนาน
SARS-CoV-2 ร่วมฤดูกาล
- หากมี circulation ของ COVID-19 ให้ พิจารณาตรวจร่วม (อาการทับซ้อน,
co/seq-infection เป็นไปได้)
Differential diagnosis (สั้น ๆ ใช้งาน)
- Viral:
SARS-CoV-2, RSV, parainfluenza, adenovirus, rhinovirus,
enterovirus, hMPV
- Bacterial:
community-acquired pneumonia, GAS tonsillopharyngitis, acute
bacterial rhinosinusitis
- Noninfectious:
โรคที่ก่อ lower respiratory symptoms อื่น
ๆ ตามบริบทคลินิก
Variant & Avian influenza (เมื่อควรนึกถึง/ส่งตรวจสาธารณสุข)
- Variant
influenza (H3N2v/H1N2v ฯลฯ): เด็กมีไข้ทางเดินหายใจ
+ ประวัติสัมผัส สุกร/สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมปีก่อนหน้า หรืออยู่ในงานปศุสัตว์
→ เก็บ NP swab ใส่ VTM และ ติดต่อสาธารณสุข เพื่อ rRT-PCR/ส่ง genome sequencing
- Avian
influenza (HPAI H5Nx): ผู้สัมผัส สัตว์ปีก/โค-นม/สัตว์ป่าที่ติดเชื้อ
หรือแล็บเสี่ยง → เฝ้าระวังอาการทางเดินหายใจ/ตา 10 วันหลังสัมผัสครั้งสุดท้าย,
หากเข้าเกณฑ์ให้ ทดสอบ RT-PCR ด้วย
H5-specific primers ผ่านสาธารณสุขท้องที่
จุดสำคัญเชิงระบบ/การปฏิบัติ (Key takeaways)
|
การดูแลทั่วไป (General measures)
- Symptom
control: acetaminophen หรือ NSAIDs (เช่น ibuprofen) สำหรับไข้/ปวดศีรษะ/กล้ามเนื้อ/คออักเสบ
- หลีกเลี่ยง salicylates/aspirin ทุกกรณีใน
<18 ปี (เสี่ยง Reye syndrome)
- ยารวมหวัด OTC: ไม่เพิ่มประโยชน์
ชี้มีความเสี่ยงต่อ overdose →
ไม่แนะนำ
- Hydration,
nutrition, rest; พิจารณา antitussives อย่างระมัดระวังตามอายุ/ข้อห้าม
เกณฑ์พิจารณา Admit (Indications for
hospitalization)
- Dyspnea
ขณะพัก/SpO2 ต่ำ, เสี่ยงภาวะหายใจล้มเหลว
- Altered
mental status
- Progressive
illness/clinical deterioration โดยเฉพาะมี hypoxemia
- Dehydration
หรือรับประทาน/ดื่มไม่ได้
- Exacerbation
ของโรคประจำตัว (asthma, heart disease, neuromuscular ฯลฯ)
- Serious
complications: pneumonia (สงสัย bacterial
coinfection), myocarditis, encephalitis, severe myositis ฯลฯ
การป้องกันการแพร่เชื้อ (Infection
control)
- ผู้ป่วยนอน รพ.: Standard + Droplet precautions ตลอดระยะอาการ
- ผู้ป่วยนอก/ชุมชน: ให้ งดไปโรงเรียน/ศูนย์เด็กเล็ก/ที่ชุมชน อย่างน้อย
> 7 วันหลังเริ่มอาการ หรือ > 24 ชม.หลังไข้หายโดยไม่ใช้ยาลดไข้
(อย่างใดอย่างหนึ่งที่นานกว่า)
- รับทราบว่าแม้รักษาแล้ว viral shedding อาจ
> 10 วัน ในเด็กเล็ก/ภูมิคุ้มกันบกพร่อง
Antiviral therapy (ข้อบ่งชี้ ยา ขนาด
ระยะเวลา)
ข้อบ่งชี้ให้ยา (ให้โดย ไม่ต้องรอผลตรวจ หากเข้าเกณฑ์)
1. แนะนำให้ ทุกรายที่มี
suspected/confirmed influenza และ:
- Admitted
หรือมี severe/progressive disease
- มี underlying high-risk conditions
- ผู้ป่วยนอก nonsevere แต่ อยู่ร่วมกับทารก
< 6 เดือน หรือ มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงในบ้าน
→ พิจารณาให้เพื่อลด shedding/ถ่ายทอด
- อื่น ๆ ที่ อาการ < 48 ชม.:
ใช้ shared decision-making กับครอบครัว
(ชั่งประโยชน์/ความเสี่ยง/ค่าใช้จ่าย)
Timing: เริ่ม เร็วที่สุด
(ดีที่สุด < 48 ชม.)
แต่ ในรายรุนแรง/เสี่ยงสูง/นอน รพ. ให้ เกิน 48
ชม. ก็ยังมีประโยชน์
2. ตัวเลือกยา (licensed agents) — กลไก/อายุ/ข้อจำกัด (สรุปใช้งาน)
- Oseltamivir
(PO) — neuraminidase inhibitor
- ใช้ได้ตั้งแต่อายุ > 2 สัปดาห์
(และใช้ในทารกเกิดก่อนกำหนดได้ด้วย dosing พิเศษ)
- preferred
ในเด็กส่วนใหญ่ รวมถึงราย รุนแรง/นอน รพ.
- Zanamivir
(inhaled dry powder) — neuraminidase inhibitor
- ใช้ในอายุ > 7 ปี;
หลีกเลี่ยง ใน asthma/airway
disease หรือแพ้ lactose/milk protein
- Peramivir
(IV single dose) — neuraminidase inhibitor
- ใช้ในอายุ > 6 เดือน;
เหมาะเมื่อ รับประทานไม่ได้
- Baloxavir
(PO single dose) — cap-dependent endonuclease inhibitor
- ใช้ในอายุ > 5 ปี สำหรับ uncomplicated influenza (outpatient)
- หลีกเลี่ยง ให้ร่วมกับ ผลิตภัณฑ์นม/ยาถ่าย/antacids/แร่ธาตุ multivalent cations (ลดซึมผ่านยา)
- หลีกเลี่ยง monotherapy ใน severely
immunocompromised (กังวล resistance)
3 ขนาดยา (dosing ที่ใช้บ่อย)
Oseltamivir (5 วัน)
- ทารกครบกำหนด <1 ปี: 3 mg/kg bid
(อายุ 9–11 เดือน บางแนวทาง 3.5
mg/kg bid)
- เด็ก 1–12 ปี ตามน้ำหนัก
- <
15 kg: 30 mg bid
- 15–23
kg: 45 mg bid
- 23–40
kg: 60 mg bid
- 40
kg: 75 mg bid
- >
13 ปี: 75 mg bid
- ทารกคลอดก่อนกำหนด: ปรับตาม postmenstrual
age (ควร consult ID/Neo)
Zanamivir (> 7 ปี): 10
mg inhaled bid × 5 วัน (ห้ามใช้กับ nebulizer/vent)
Peramivir (IV single dose)
- 6
เดือน–12 ปี: 12 mg/kg
(max 600 mg) ×1
- >
13 ปี: 600 mg ×1
Baloxavir (single dose)
- 5–<12
ปี: 2 mg/kg (suspension) หรือทำตามช่วงน้ำหนักที่ระบุโดยรูปแบบยา
- >
12 ปี/ผู้ใหญ่: <80 kg: 40 mg ×1, >
80 kg: 80 mg ×1
หลีกเลี่ยงร่วมกับนม/แร่ธาตุ multivalent
(Ca, Mg, Fe, Zn ฯลฯ)
4. ประสิทธิผล (Efficacy — practical
pearls)
- เริ่มภายใน 48 ชม. โดยเฉลี่ย ลดอาการ ~1
วัน; ในเด็กเล็กเริ่ม 12–24
ชม. อาจลดได้ถึง ~3 วัน
- หลักฐานเชิงสังเกตชี้ว่าในราย รุนแรง/นอน รพ. การให้ neuraminidase
inhibitors เร็วขึ้นเชื่อมโยงกับ ลดภาวะแทรกซ้อน/ตาย/LOS
- Baloxavir
อาจเหนือกว่า oseltamivir เล็กน้อยใน
Influenza B (ข้อมูลส่วนใหญ่จากผู้ใหญ่/วัยรุ่น)
5. อาการไม่พึงประสงค์ (AEs)
- Oseltamivir:
คลื่นไส้/อาเจียน/ท้องเสีย/ปวดศีรษะ; รายงาน
neuropsychiatric events พบได้แต่น้อยและความเป็นเหตุยังไม่ชัด
- Zanamivir:
sinusitis, เวียนศีรษะ; หลีกเลี่ยงใน asthma
(เสี่ยง bronchospasm)
- Peramivir:
ท้องเสีย/อาเจียน
- Baloxavir:
ท้องเสีย/อาเจียน (ไม่บ่อย); รายงานแพ้รุนแรงพบได้น้อยมาก
การจัดการ coinfection และ
antibiotics
- ไม่ให้ยาปฏิชีวนะตาม routine; ให้เมื่อ พิสูจน์/สงสัยมาก
ว่ามี bacterial complications (เช่น bacterial
pneumonia, AOM, ABRS)
- ถ้าช็อก/รุนแรงมาก/สงสัย S. aureus (รวม MRSA)
หรือ S. pneumoniae/S. pyogenes ร่วม:
เริ่ม broad empiric (เช่น vancomycin
+ [clindamycin/ceftaroline/linezolid]) คู่กับ antiviral
แล้วปรับตามผลเพาะเชื้อ/ภาพคลินิก
เมื่อตอบสนองไม่ดี/แย่ลง (Treatment
failure — bedside checklist)
คิดถึง:
1.
Antiviral resistance (พบบ้างใน
oseltamivir โดยเฉพาะ immunocompromised;
baloxavir มีรายงาน escape mutants)
2.
ภาวะแทรกซ้อน:
myocarditis/encephalitis, bacterial/fungal coinfection (เช่น
invasive aspergillosis ใน ICU/IC), VTE, ARDS
3.
การวินิจฉัยอื่น/ร่วม:
RSV, SARS-CoV-2, hMPV ฯลฯ
แนวทางปฏิบัติ
- ทบทวน เวลาเริ่มยา/การรับประทานได้จริง และ dose
- พิจารณา เปลี่ยนกลุ่มยา (เช่น จาก oseltamivir
→ zanamivir inhaled
ถ้าไม่มีข้อห้าม หรือ peramivir IV)
- ราย severe/prolonged หรือ immunocompromised:
พิจารณา ขยายระยะ oseltamivir > 5 วัน โดย ติดตาม
PCR จาก lower RT specimens
- Consult
Pediatric ID หากสงสัยดื้อยา/ซับซ้อน
Antiviral resistance — ข้อควรรู้
- เชื้อหมุนเวียนส่วนใหญ่ยัง ไวต่อ neuraminidase
inhibitors และ baloxavir
- Oseltamivir
resistance: เคยรายงานใน H1N1pdm09 โดยเฉพาะในเด็ก immunocompromised ระหว่างการรักษา
- Baloxavir:
มี treatment-emergent resistance โดยเฉพาะ H3N2; อาจยืด viral
shedding → เฝ้าระวังอาการและสาธารณสุขท้องถิ่นเรื่องการดื้อ
Practical ED/Clinic flow (สรุปเร็ว) 1. คัดกรองความรุนแรง/SpO2/กลุ่มเสี่ยง → ตัดสินใจ admit
vs OPD 2. ถ้า เข้าเกณฑ์ให้ antiviral → ให้ทันที
(อย่ารอผล) 3. เลือกยา: Oseltamivir PO 5 วัน (first-line); ถ้ากินไม่ได้
Peramivir IV ×1; อายุ > 7 ปี ไม่มี asthma → Zanamivir inhaled; อายุ > 5 ปี
uncomplicated และสะดวก single dose → Baloxavir 4. ให้ คำแนะนำ infection control ที่บ้าน/โรงเรียน
และ red flags (หอบ/ซึม/กินไม่ได้/ไข้กลับ/เจ็บหน้าอก/ชัก/อาเจียนพุ่ง) 5. นัดติดตาม/โทรกลับกรณี high-risk หรือเมื่ออาการไม่ดีขึ้นภายใน
48–72 ชม. |
การป้องกันไข้หวัดใหญ่ในเด็ก (Influenza
Chemoprophylaxis)
หลักคิดเร็ว
- วัคซีน = มาตรการหลัก สำหรับเด็ก >
6 เดือน; การใช้ยาป้องกันเป็นเพียง เสริม/ทางเลือกชั่วคราว
ในผู้ที่ฉีดไม่ได้/ตอบสนองไม่ดี/ยังไม่ทันสร้างภูมิ
- ไม่แนะนำให้ใช้เป็นวงกว้างหรือใช้ตามฤดูกาลเป็นปกติ
- เริ่มภายใน 48 ชม.หลังสัมผัส
(post-exposure, PEP) เพื่อให้เกิดประโยชน์
- คัดเลือกเป็นรายกรณี โดยพิจารณา:
ความเสี่ยงต่อโรครุนแรง/ภาวะแทรกซ้อน, สถานะวัคซีน,
ลักษณะการสัมผัส, สามารถรับยาครบคอร์สหรือไม่
ใคร “พอจะให้” ยาป้องกัน
- เด็กเสี่ยงสูงมาก (เช่น
ภูมิคุ้มกันบกพร่องรุนแรง) ที่ฉีดวัคซีนไม่ได้/คาดว่าไม่ตอบสนอง/เพิ่งฉีด
< 2 สัปดาห์
- เด็กกลุ่มเสี่ยงสูง ที่ยังไม่ฉีดหรือเพิ่งฉีด
< 2 สัปดาห์ และมีการสัมผัสเสี่ยง
- ผู้ใกล้ชิดในบ้าน/ผู้ดูแล ของเด็กภูมิคุ้มกันบกพร่องรุนแรงที่ยังไม่ได้ฉีด
(PEP หรือ pre-exposure หากมีการสัมผัสต่อเนื่องและเด็กไม่สามารถรับวัคซีน/ยาได้)
ผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดและไม่มีข้อห้าม ให้ฉีดวัคซีนพร้อมกัน
(IIV หรือ RIV ตามอายุ/ข้อบ่งชี้)
ประโยชน์/โทษโดยสรุป
- ลดความเสี่ยง influenza ที่ยืนยันทางห้องปฏิบัติการ ได้ แต่ อานิสงส์แบบสัมบูรณ์ค่อนข้างน้อย (รายบุคคล ~2–3%, ครัวเรือน ~8–15%) หากเริ่ม < 48 ชม.
- ยังไม่ชัดเจน ว่าลดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงได้
- ความเสี่ยง: ดื้อยา (พบบ่อยขึ้นกับ baloxavir,
พบได้ในเด็กแม้สุขภาพดี), ผลข้างเคียงของยา,
ใช้ยาเปลืองจน ขาดแคลนสำหรับผู้ป่วยรุนแรง
ตัวเลือกยา (เลือกหนึ่งเดียว, ตามอายุ/ข้อห้าม)
ยาที่แนะนำเป็นอันดับแรก: Oseltamivir
ยา |
ขอบเขตอายุ |
ขนาดยา (PEP/PrEP) |
ระยะเวลา |
Oseltamivir (PO) |
> 1 ปี
(ใช้ใน < 1 ปีได้เมื่อจำเป็น) |
< 1 ปี: 3–8
ม. 3 มก./กก./วัน, 9–11 ม. 3.5 มก./กก./วัน | 1–12 ปี:
< 15 กก. 30 มก./วัน; > 15–23 กก. 45 มก./วัน;
>23–40 กก. 60 มก./วัน; >40 กก. 75 มก./วัน | > 13 ปี: 75 มก./วัน |
PEP: ถึง ครบ
7 วันหลังการสัมผัสครั้งสุดท้าย | PrEP:
ทุกวันตลอดช่วงกิจกรรมของโรค หรือ ถึง 14 วันหลังฉีดวัคซีน |
Zanamivir (สูดผง) |
> 5 ปี |
10 มก. (2 พัฟ) วันละครั้ง |
ระยะเวลาเดียวกับ oseltamivir |
⚠️ หลีกเลี่ยงใน หืด/COPD
(เสี่ยงหลอดลมตีบ) |
|||
Baloxavir (PO) |
PEP เท่านั้น > 5 ปี |
Single dose ตามน้ำหนัก:
< 15 กก. 2 มก./กก.; 15–< 20 กก. 30 มก.; 20–< 80 กก. 40
มก.; > 80 กก. 80 มก. |
ครั้งเดียว |
⚠️ ไม่ใช้ PrEP;
ระวัง ดื้อยา/หลีกเลี่ยงในภูมิคุ้มกันบกพร่อง |
|||
Laninamivir |
ใช้ในญี่ปุ่นเท่านั้น
(single dose/สูตร 2 วัน) |
— |
— |
Peramivir / Adamantanes |
ไม่ใช้ สำหรับป้องกัน |
— |
— |
ผลข้างเคียงสำคัญ
- Oseltamivir:
คลื่นไส้/อาเจียน
- Zanamivir:
หลอดลมตีบในผู้มีโรคทางเดินหายใจ
- Baloxavir:
ถ่ายเหลว, อาเจียน, การเกิดดื้อยา
เวลาเริ่มและระยะคอร์ส
- PEP:
เริ่ม เร็วที่สุดและภายใน 48 ชม. หลังสัมผัส
- Oseltamivir/Zanamivir:
ต่อจน ครบ 7 วันหลังสัมผัสครั้งสุดท้าย
- Baloxavir:
ครั้งเดียว (> 5 ปี)
- PrEP:
เริ่มเมื่อมี กิจกรรมของโรคในชุมชน
- ใช้รายวัน ตลอดฤดูกาล/ช่วงมีความเสี่ยง หรือจน ครบ 14
วันหลังฉีดวัคซีน (ถ้ารอภูมิ)
สถานการณ์สถานพยาบาล/หน่วยปิด (Institutional
outbreak)
- นิยาม (IDSA): พบ > 2 เคสติดเชื้อยืนยันในวอร์ด/หน่วยเดียวกันภายใน
72 ชม.
- มาตรการ: เฝ้าระวัง, cohort ผู้ป่วย/บุคลากรป่วย,
หน้ากาก, จำกัดเยี่ยม ฯลฯ
- เป้าหมาย:
- ผู้ป่วย/ผู้อยู่อาศัยที่สัมผัสแต่ยังไม่ป่วย → ให้ oseltamivir (หรือ zanamivir
ถ้าเหมาะ) อย่างน้อย 2 สัปดาห์ และ ต่อถึง 1 สัปดาห์หลังพบเคสสุดท้าย
- บุคลากร ที่ยังไม่ฉีดหรือเพิ่งฉีด
< 2 สัปดาห์ → พิจารณาให้ยาป้องกันจน ครบ 14
วันหลังฉีด (baloxavir single dose เป็นทางเลือกในบุคลากร)
- หากเกิดอาการให้ รักษาทันที และ กลับไปให้ PEP
ต่อ หากยังมีการสัมผัสในหน่วย
ประเด็นพิเศษ
- LAIV
(วัคซีนพ่นจมูก): ไม่ให้ยาป้องกันภายใน
14 วันหลังรับ LAIV; หากจำเป็นต้องให้ก่อนครบ
14 วัน → Revaccinate ด้วย IIV/RIV
- ติดเชื้อแม้กำลังป้องกัน (breakthrough): ตรวจและ
เริ่มยารักษาทันที; พิจารณา เปลี่ยนกลุ่มยา
(เช่น หากใช้ baloxavir ป้องกัน → ใช้ neuraminidase
inhibitor รักษา)
- ตั้งครรภ์: ดูแนวทางเฉพาะการตั้งครรภ์
ให้คำแนะนำผู้ปกครอง (Key counseling)
|
วัคซีนไข้หวัดใหญ่ในเด็ก (Seasonal
Influenza Vaccination in Children)
ภาวะการระบาด (Influenza activity)
- ติดตามได้จาก CDC FluView และ WHO
FluNet (อัปเดตทุกสัปดาห์ฤดูกาลหวัดใหญ่)
- หลังยุค COVID-19 รูปแบบฤดูกาลเริ่มกลับสู่เดิม
แต่เวลาพีก/สายพันธุ์เด่นอาจต่างกันในแต่ละปี
ประเภทวัคซีน (Types)
- IIV3:
inactivated (รวม cell-based ccIIV3 ที่ egg-free)
– ใช้ได้ตั้งแต่อายุ > 6 เดือน
- LAIV3:
live attenuated (พ่นจมูก) – ใช้ได้ในคนสุขภาพดี อายุ 2–49
ปี (ไม่ตั้งครรภ์)
- RIV3:
recombinant – > 18 ปี (จึงใช้ในวัยรุ่นปลาย/ผู้ใหญ่)
องค์ประกอบสายพันธุ์ จะเก็บข้อมูลและเผยแพร่ในแต่ละปี เช่น 2025–26 ซีกโลกเหนือ: วัคซีนเป็น trivalent (A/H1N1, A/H3N2, B/Victoria); สูตร egg-based กับ cell/recombinant
อาจใช้สายพันธุ์ reference ต่างกันเล็กน้อยตามคำแนะนำ
WHO/FDA แต่ครอบคลุมกลุ่มเดียวกัน
กลุ่มเป้าหมาย (Targets)
- ฉีดประจำปีแบบครอบจักรวาล > 6
เดือน (CDC/ACIP, AAP) แม้ปีนั้นคาดว่า
“mismatch” ก็ยังมีประโยชน์
- ให้ความสำคัญกับ: เด็กกลุ่มเสี่ยงสูง, บุคลากรสาธารณสุข,
เด็กอพยพ/ผู้ลี้ภัย
การเลือกชนิดวัคซีน (Choice)
- เด็ก 6–24 เดือน และเด็กที่มี
contraindication/precaution ต่อ LAIV ⇒
IIV3
- เด็ก > 5 ปีที่เป็นหอบ/โรคระบบทางเดินหายใจ ⇒ IIV3 preferred
- เด็ก > 2 ปี สุขภาพดี ไม่มีข้อห้าม ⇒ เลือก IIV3 หรือ LAIV3 ได้ตามความสะดวก/ยอมรับของครอบครัว
ตารางการฉีด (Schedule)
- ฉีดทุกปี (ภูมิคุ้มกันลดลงภายใน 1 ปี)
- อายุ 6 เดือน–8 ปี:
- ครั้งแรกในชีวิต (ยังไม่เคยได้ > 2 โดสที่ห่าง > 4 สัปดาห์มาก่อน): ต้อง 2 โดส ห่าง > 4 สัปดาห์
- เคยได้ครบตามเกณฑ์แล้ว: ปีละ 1 โดส
- >
9 ปี: ปีละ 1 โดส
- ควรฉีด ก่อนฤดูกาลเริ่ม (โดยทั่วไป
ก.ย.–ต.ค. ในซีกโลกเหนือ) แต่ ยังให้ได้ตลอดฤดูกาล ตราบเท่าวัคซีนไม่หมดอายุ
ขนาด/วิธีให้ (Route & Dose)
- IIV
(IM): เด็ก 6–35 เดือน ปริมาณขึ้นกับยี่ห้อ (0.25 หรือ 0.5
mL); > 36 เดือน: 0.5 mL IM
- LAIV3
(intranasal): 0.2 mL (0.1 mL/รูจมูก)
- ฉีดร่วมวัคซีนอื่น ทำได้ (ต่างตำแหน่ง);
LAIV ถ้าไม่ให้วันเดียวกับ live ตัวอื่น
ควรเว้น > 4 สัปดาห์
ข้อห้าม/ข้อควรระวัง (Contraindications
& Precautions)
- แพ้ไข่: ไม่ใช่ข้อห้ามสำหรับวัคซีนสมัยใหม่
→ เด็กแพ้ไข่ รับวัคซีนใดก็ได้ ที่เหมาะอายุ/สุขภาพ
- LAIV
– ห้ามใช้ ใน: อายุ 2–4 ปีที่มี wheezing/asthma ใน 12 เดือนที่ผ่านมา, immunocompromised, ตั้งครรภ์,
CSF leak/cochlear implant, และ ได้รับยาต้านไวรัสใกล้เคียง
(oseltamivir/zanamivir ภายใน 48 ชม.,
peramivir ภายใน 5 วัน, baloxavir
ภายใน 17 วัน)
- Precautions
ร่วมกัน: เจ็บป่วยปานกลาง-รุนแรงรอให้ดีขึ้น,
GBS ภายใน 6 สัปดาห์ หลังรับวัคซีนเดิม (ชั่งน้ำหนักประโยชน์-ความเสี่ยง)
หลังติดเชื้อ/รับยาต้านไวรัส (Documented
infection & Antivirals)
- ยังควรฉีด แม้เคยป่วยแล้วในฤดูกาลเดียวกัน
(หลายสายพันธุ์หมุนเวียน)
- ถ้า ได้ LAIV แล้วได้รับยาต้านไวรัส ในช่วงเวลาเสี่ยงด้านบน ⇒ ให้ revaccinate ด้วย IIV/RIV
ตามอายุ
ประสิทธิผล/ประสิทธิภาพ (Efficacy/Effectiveness)
— Key points
- ป้องกัน lab-confirmed influenza ได้ดีเมื่อ
vaccine–strain match; ยังลด รุนแรงของโรค/นอน
ICU/เสียชีวิต
- ประสิทธิภาพในชุมชนผันแปร ~10–60% ตามฤดูกาล/สายพันธุ์
แต่ ประโยชน์สุทธิเด่นชัด โดยเฉพาะต่อ การนอน รพ.
และการเสียชีวิตในเด็ก
อาการไม่พึงประสงค์ (Safety)
- IIV:
ปวด/บวมตำแหน่งฉีด, ไข้ต่ำในเด็กเล็ก;
ภาวะแทรกซ้อนรุนแรง พบได้น้อยมาก
- LAIV:
คัดจมูก/น้ำมูก/ไข้ต่ำ 2–4 วันหลังเข็มแรก;
viral shedding ตรวจพบได้ชั่วคราว แต่ การแพร่เชื้อจากวัคซีนพบได้น้อยมาก
- ฉีด IIV + PCV/DTaP วันเดียวกัน
อาจเพิ่ม febrile seizure เล็กน้อยในวัย 6–23
เดือน แต่ ความเสี่ยงสัมบูรณ์ต่ำ และไม่ควรเลื่อนวัคซีนจำเป็น
สถานการณ์พิเศษ
- วัคซีนขาดแคลน: เร่งฉีดให้ กลุ่มเสี่ยงสูง,
หญิงตั้งครรภ์, และ ผู้สัมผัสใกล้ชิดทารก
< 6 เดือน/ผู้เสี่ยงสูง
- Immunocompromised:
ใช้ IIV (LAIV ห้าม)
+ เน้นฉีดผู้สัมผัสในบ้าน
- ผู้เดินทาง: ไป เขตร้อน/ซีกโลกตรงข้ามช่วงฤดูกาล
ให้ฉีด > 2 สัปดาห์ก่อนเดินทาง;
ถ้าเป็นไปได้ใช้สูตรที่ตรงกับซีกโลกปลายทาง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น