วันศุกร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2568

Subclinical Hyper / Hypothyroidism

Subclinical Hyperthyroidism (SCH)

นิยาม

  • SCH: TSH ต่ำกว่าปกติ (< 0.5 mU/L; เน้น < 0.1 สำคัญกว่า) แต่ free T4/T3 ปกติ
  • Overt: TSH ต่ำ + free T4/T3 สูง

อาการไทรอยด์เกินอาจมี/ไม่มี ไม่ใช้ตัดสินใจเดี่ยว ๆ


ระบาดวิทยา (ภาพรวม)

  • พบ ~0.7–3% ของประชากร; มากขึ้นใน หญิง/ผู้สูงอายุ/พื้นที่ขาดไอโอดีน/ผู้สูบบุหรี่
  • พบบ่อยจากการให้ levothyroxine (ตั้งใจ/ไม่ตั้งใจ)

สาเหตุหลัก

1.       Exogenous: LT4 มากเกิน (รักษาภาวะ hypo, กด TSH หลังมะเร็งไทรอยด์/ก้อน)

2.       Endogenous:

o   Autonomy: toxic adenoma/multinodular goiter (พบบ่อยใน > 55 ปี)

o   Graves’ (ระยะแรก/สงบ)

o   Thyroiditis (ระยะต้น)

3.       hCG-mediated: ตั้งครรภ์/Hyperemesis (มักชั่วคราว)


การวินิจฉัย (ต้องยืนยันซ้ำ)

1.       พบ TSH ต่ำ ทบทวนยา/ไอโอดีน/อาการ

2.       ยืนยัน: ทำ TSH + free T4 + T3 ซ้ำใน 1–3 เดือน

3.       เมื่อยืนยันว่าเป็น SCH ค้นหาสาเหตุ ในรายที่เสี่ยงภาวะแทรกซ้อนหรือ TSH < 0.1

แยกโรคที่เลียนแบบ

  • Central hypothyroidism, nonthyroidal illness (steroids/dopamine), กำลังฟื้นจาก thyrotoxicosis, คนผิวดำบางราย TSH ต่ำตามปกติ, และ biotin (หยุด > 48 ชม.ก่อนตรวจ)

การสืบค้นหาสาเหตุ (ทำเมื่อจำเป็นต่อการรักษา)

  • TRAb: บวก = Graves’
  • RAIU/thyroid scan:
    • จุดร้อน/หลายจุด = autonomy
    • diffuse สูง = Graves’
    • ต่ำ = thyroiditis/ได้ไอโอดีนล่าสุด/ยาจากภายนอก
  • U/S: ประเมินก้อน; Doppler ช่วยใน overt มากกว่า SCH
  • BMD (DXA): ในหญิงหลังหมดประจำเดือน/ผู้มีปัจจัยเสี่ยงกระดูกพรุน

พยากรณ์/ความเสี่ยงสำคัญ

  • ลุกลามเป็น overt: ขึ้นกับสาเหตุและระดับ TSH
    • TSH < 0.1 เสี่ยงสูงกว่าชัดเจน (รายงาน ~6–20% ใน 2–3 ปี)
  • หัวใจ: เพิ่มความเสี่ยง AF, ภาวะหัวใจล้มเหลว/โรคหัวใจขาดเลือดเล็กน้อย–ปานกลาง (เด่นเมื่อ TSH < 0.1)
  • กระดูก: ความหนาแน่นลด/เสี่ยงหัก โดยเฉพาะ หญิงหลังหมดระดู
  • อัตราการตาย/หัวใจ: เพิ่มเล็กน้อย โดยเฉพาะ TSH กดเต็มที่ (< 0.1)
  • อื่น ๆ: QoL บางมิติแย่ลง; ภาวะสมองเสื่อม อาจเพิ่มความเสี่ยง (ข้อมูลไม่สอดคล้องทั้งหมด)

หลักการรักษา (แบ่งตามความเสี่ยงและระดับ TSH)

1) ได้ LT4 รักษา Hypothyroidism

  • เป้าหมาย: TSH ปกติ (~0.5–4.5) ปรับลดขนาดยา
  • หญิงหลังหมดประจำเดือน/สูงอายุ: หลีกเลี่ยง TSH ต่ำเรื้อรัง

2) ได้ LT4 แบบกด TSH (มะเร็ง/ก้อน)

  • รักษาให้ ต่ำเท่าที่จำเป็นตามความเสี่ยงโรคเดิม
  • ให้ แคลเซียม–วิตามิน D และ พิจารณายาต้านสลายกระดูก หากเสี่ยง

3) Endogenous SCH (ไม่ตั้งครรภ์)

นิยาม “เสี่ยงสูง”: อายุ > 65 ปี, โรคหัวใจ/AF, HF, ความเสี่ยงกระดูกพรุน/กระดูกหัก, หญิงหลังหมดระดู

  • TSH < 0.1 mU/L
    • เสี่ยงสูง: รักษาสาเหตุ (Graves’/autonomy/อื่น) + β-blocker คุมอาการ
    • เสี่ยงต่ำ: แนะนำรักษา โดยเฉพาะถ้ามี autonomy/มีอาการ; เฝ้าดูเป็นทางเลือกได้ในผู้ไร้อาการและไม่มี autonomy
  • TSH 0.1–0.5 mU/L
    • เสี่ยงสูง: พิจารณารักษา (มี CVD/กระดูกพรุน/อาการ หรือ scan พบ autonomy)
    • เสี่ยงต่ำ: เฝ้าดู ตรวจ TSH/FT4/T3 ทุก 6 เดือน; DXA ทุก 2 ปี (ถ้ามีความเสี่ยง)

ทางเลือกการรักษาตามสาเหตุ:

  • Graves’: thionamide / RAI / ผ่าตัด
  • Autonomy (toxic nodule/MNG): RAI / ผ่าตัด / RFA (นอตเดียว)
  • Thyroiditis/ได้ไอโอดีน/ยาจากภายนอก: ส่วนใหญ่ ไม่ต้องรักษาเฉพาะ; ใช้ β-blocker ตามอาการและติดตามฮอร์โมน

การติดตาม

  • ยืนยันวินิจฉัยแล้ว: TSH/FT4/T3 ทุก 6 เดือน (หรือถี่ขึ้นหาก TSH <0.1/มีอาการ)
  • ถ้าเฝ้าดู: ประเมิน อาการหัวใจ/ชีพจร/AF, ปัจจัยกระดูก; DXA ทุก 2 ปี ในกลุ่มเสี่ยง
  • เมื่อปรับ LT4: ตรวจซ้ำ 6–8 สัปดาห์ หลังปรับขนาด

 

จุดพลาดที่ควรหลีกเลี่ยง

  • มองข้าม biotin ทำให้ TSH ต่ำหลอก
  • ไม่ยืนยันด้วย การตรวจซ้ำ SCH จำนวนมาก กลับสู่ปกติเอง
  • ไม่คัดกรอง/จัดการ ความเสี่ยงหัวใจและกระดูก โดยเฉพาะเมื่อ TSH < 0.1
  • ลืมประเมิน สาเหตุ autonomy เมื่อคิดจะเฝ้าดูยาว ๆ

 

 

Subclinical Hypothyroidism (SCH)


นิยาม

  • SCH: TSH สูงกว่าค่าปกติ โดยที่ free T4 ปกติ
  • วินิจฉัยได้จาก ผลแลบเท่านั้น; อาการมักกํากวม/ไม่มี

ระบาดวิทยา (คร่าว ๆ)

  • พบ ~4–15% (ขึ้นกับเกณฑ์ TSH)
  • เพิ่มตาม อายุ, พบมากใน ผู้หญิง และ พื้นที่ไอโอดีนเพียงพอ
  • ในผู้สูงอายุ การใช้ อ้างอิง TSH ตามอายุ ลด over-diagnosis ได้ (เช่น octogenarians อาจสูงถึง 6–8 mU/L ได้ตามปกติ)

สาเหตุหลัก

  • Hashimoto’s (ส่วนใหญ่; มัก anti-TPO สูง)
  • หลัง RAI/ผ่าตัดต่อมไทรอยด์/ฉายแสงคอ
  • LT4 ไม่พอ (under-replacement)
  • ยาที่รบกวนการทำงาน/การดูดซึมของไทรอยด์ (ตารางยาทั่วไป)

การวินิจฉัย (ควร “ยืนยันซ้ำ”)

1.       ตรวจคัดกรองด้วย TSH

2.       ถ้า TSH สูง ตรวจ ซ้ำ TSH + free T4 ภายใน 1–3 เดือน ก่อนฟันธง

o   ยกเว้น ตั้งครรภ์/ทำ IVF ยืนยันทันที และพิจารณาเริ่ม LT4 ตามเกณฑ์

3.       ใช้ reference ช่วงอายุ/ไตรมาส เมื่อมี

แยกโรค/ภาวะที่ทำให้ TSH สูงหลอก

  • พักฟื้นจาก non-thyroidal illness
  • ระยะ hypo ชั่วคราว หลัง thyroiditis
  • แอนติบอดีรบกวนการตรวจ: heterophile, macro-TSH (TSH สูงมาก >100 แต่ eutho)
  • Central hypothyroidism (free T4 ต่ำ/low-normal)
  • อ้วนขั้นสูง (Class II–III): TSH สูงจาก leptin, ลดลงหลังน้ำหนักลด
  • Adrenal insufficiency ไม่รักษา, TSHoma/thyroid hormone resistance (มัก free T4/T3 สูงร่วม)

การระบุสาเหตุ (ทำเมื่อช่วยตัดสินใจรักษา)

  • anti-TPO: ช่วยพยากรณ์ “โอกาสลุกลาม” ช่วยชั่งใจรักษา/ติดตาม
  • U/S: ทำเมื่อคลำก้อน/คอโต

พยากรณ์/ผลกระทบสำคัญ

  • ลุกลามเป็น overt: ตลอดชีวิต 33–55%; เฉลี่ย 2–4%/ปี
    • เสี่ยงสูงเมื่อ TSH > 12–15 และ/หรือ anti-TPO สูง
  • หัวใจและหลอดเลือด: ความเสี่ยง CHD/Heart failure เพิ่มชัดเมื่อ TSH > 10
  • ไขมันในเลือด: งานวิจัยปะปน; บางชุดพบ LDL สูงขึ้น
  • การตาย: สัญญาณเสี่ยง CVD mortality เมื่อ TSH > 7–10; ไม่มีชัดเจนในผู้สูงอายุมาก
  • อื่น ๆ: ภาวะมีบุตรยาก/แท้งซ้ำบางส่วน, CKD เร็วขึ้น, อาการประสาท-กล้ามเนื้อเล็กน้อย; หลายการศึกษา ไม่พบ ผลเสียด้านความคิด/อารมณ์โดยสม่ำเสมอ

ใครควร “รักษา LT4” (ผู้ใหญ่ที่ไม่ตั้งครรภ์)

หลักคิด: ระดับ TSH + อายุ + อาการ/ความเสี่ยงร่วม

  • TSH > 10 mU/L แนะนำรักษา
  • TSH 7.0–9.9
    • < 65–70 ปี มักรักษา (โดยเฉพาะมีอาการ/ปัจจัยเสี่ยง CVD หรือ anti-TPO สูง)
    • > 65–70 ปี พิจารณาเป็นรายคน (โน้มเอียง “ไม่รักษา” หากไร้อาการ/ความเสี่ยง เพราะเสี่ยง overtreatment)
  • TSH สูงกว่าเกณฑ์แต่ < 6.9
    • < 65–70 ปี พิจารณารักษา ถ้ามี อาการชัด, anti-TPO สูง, หรือ คอโต
    • > 65–70 ปี มักไม่รักษา (TSH target สูงตามวัย)
  • ภาวะมีบุตรยาก/พยายามตั้งครรภ์ (มี ovulatory dysfunction/ทำ ART) พิจารณาเริ่ม LT4 ตามแนวทางสังคมวิชาชีพ

ถ้า ไม่รักษา ติดตาม TSH/FT4 ที่ 6 เดือน แล้วปีละครั้ง; ให้ความสำคัญกับ CVD risk และการเปลี่ยนแปลงอาการ


เป้าหมาย/การให้ยา/การติดตาม

  • เริ่ม LT4
    • ทางเลือก 1: 25–50 mcg/d (ปลอดภัยในผู้สูงอายุ/โรคหัวใจ)
    • ทางเลือก 2: ผู้ป่วยอายุน้อย/Hashimoto’s เริ่ม “ใกล้เต็มโดส” (~1.6 mcg/kg/d) หากไม่มีปัจจัยเสี่ยงหัวใจ
  • เป้าหมาย TSH
    • วัยหนุ่มสาว–กลางคน: 0.5–2.5 mU/L
    • > 65–70 ปี (ถ้ารักษา): 3–6 mU/L ให้สอดคล้อง age-related shift
  • ปรับยา/ติดตาม: ตรวจ TSH ทุก 6 สัปดาห์ หลังเริ่ม/ปรับขนาด ปรับครั้งละ 12.5–25 mcg จนเข้าเป้า ประเมินปีละครั้ง เมื่อคงที่

ประโยชน์/ข้อจำกัดของการรักษา

  • ชัดเจนที่สุด: ลดการลุกลามเป็น overt (เด่นเมื่อ TSH > 10 หรือ anti-TPO สูง)
  • อาการ/คุณภาพชีวิต: ใน TSH <10 โดยรวม ไม่ดีขึ้นชัด ใน RCT ขนาดใหญ่
  • หัวใจ/หลอดเลือด: อาจได้ประโยชน์ใน อายุน้อย; ไม่ชัด หรืออาจ เสี่ยง ในผู้สูงอายุจาก overtreatment
  • ไขมัน: บางการทดลอง LDL ลด (มากใน TSH > 10) แต่ผลรวม ไม่สม่ำเสมอ

ข้อควรระวัง/จุดพลาด

  • อย่าตีความ TSH สูงครั้งเดียว ต้องยืนยันซ้ำ
  • พิจารณาอ้างอิงตามอายุ ในผู้สูงวัย เพื่อลด over-treat
  • สงสัย macro-TSH/heterophile เมื่อ TSH สูงผิดสัดส่วน แต่ eutho ปรึกษาห้องแลบ
  • เริ่มยาต่ำ-ไต่ช้าใน โรคหัวใจ/ผู้สูงอายุ เพื่อหลีกเลี่ยง angina/arrhythmia
  • ให้คำแนะนำ การกินยา LT4 (ท้องว่าง, หลีกเลี่ยงแคลเซียม/เหล็ก/โซยา/ไฟเบอร์สูง 4 ชม.) เพื่อเลี่ยง under-/over-replacement

 

สรุปสั้นสำหรับหน้าโต๊ะตรวจ

  • Tx เมื่อ: TSH > 10 (ทุกราย), 7–9.9 ถ้า < 65–70 ปีหรือมีปัจจัยเสี่ยง/อาการ/anti-TPO สูง
  • ไม่ Tx เมื่อ: ผู้สูงอายุไร้อาการ TSH < 6.9 (เฝ้าดู)
  • โดสเริ่มต้น 25–50 mcg/d (สูงวัย/CVD) หรือ ~1.6 mcg/kg/d (หนุ่มสาวคัดราย)
  • เป้า TSH: 0.5–2.5 (หนุ่มสาว), 3–6 (> 65–70 ปี)
  • ติดตาม: 6 สัปดาห์หลังปรับ, คงที่แล้วปีละครั้ง

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น