วันอังคารที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2568

Hyperosmolar Hyperglycemic State (HHS): Treatment in adult

Hyperosmolar Hyperglycemic State (HHS): Treatment in adult


1) จำแนกก่อนเริ่ม (DKA vs HHS vs Mixed)

  • HHS เด่น: ketoacidosis ไม่มี/น้อย, glucose มัก >1000 mg/dL, effective Posm สูงมาก (อาจถึง ~380 mOsm/kg), อาการทางระบบประสาทเด่น
  • DKA เด่น: AG metabolic acidosis + ketone, glucose มัก 350–800
  • Mixed พบได้ ~ ปรับอินซูลินใกล้เคียง DKA และคุม osmolality แบบ HHS

สูตรที่ใช้ตลอด:

  • Effective Posm (mOsm/kg) = 2×Na (mEq/L) + glucose/18 (ใช้ Na “ที่วัดจริง”)
  • Corrected Na เพิ่ม +2 mEq/L ต่อ glucose ทุก 100 mg/dL ที่เกิน 100

2) เป้าหมายการรักษา HHS

  • ลด Posm อย่างปลอดภัย: 3–8 mOsm/kg/ชม.
  • ลด glucose: 90–120 mg/dL/ชม.
  • ลด Na: 10 mmol/L/24 ชม.
  • ฟื้น volume และ K deficit อย่างมีแผน
  • เริ่ม insulin IV low-dose เมื่อ K 3.5 mEq/L

3) ลำดับการรักษา (Algorithm แบบย่อ)

3.1 การประเมินเบื้องต้น

  • ABC, สติ/GCS (8 ปกป้องทางเดินหายใจ)
  • ค้นหาปัจจัยกระตุ้น (ติดเชื้อ/MI/Stroke/ยา ฯลฯ)

สั่งตรวจทันทีและติดตามตามตาราง (ข้อ 6):
Chemistry (Na/K/Cl/HCO₃⁻/BUN/Cr/Pi/Mg), glucose, คำนวณ AG/effective Posm, CBC, UA, ECG, ± CXR/คัลเจอร์, HbA1c


3.2 สารน้ำ (เริ่มทันที)

ของเหลวเริ่มต้น: Balanced crystalloid (เช่น LR/Plasma-Lyte) หรือ 0.9% NaCl

  • ช็อก bolus เร็วสุด
  • ไม่มีช็อก/หัวใจไตปกติ 500–1000 mL/ชม. ชม.แรก ๆ เป้าหมายชดเชยขาดน้ำใน 24–48 ชม.
  • CKD/CHF/สูงอายุ bolus เล็ก 250 mL ซ้ำตาม hemodynamic/ปัสสาวะ

หลังชั่วโมงที่ 2–3: ปรับตาม Corrected Na

  • Corrected Na <135 คง isotonic 250–500 mL/ชม.
  • Corrected Na 135 เปลี่ยนเป็น 0.45% NaCl 250–500 mL/ชม. (ให้ electrolyte-free water)

ใส่ dextrose: เมื่อ glucose <250 mg/dL เติม D5–D10 ใน IV fluids

จำไว้: K ที่ผสมในสารน้ำเป็น osmole เท่า Naระวังทำสารน้ำ “hypertonic” โดยไม่ตั้งใจ


3.3 โพแทสเซียม (ให้ก่อน/พร้อมอินซูลิน)

ผู้ป่วย HHS ขาด K ทั้งตัวมากแม้ serum K อาจปกติ/สูงตอนมา

Serum K

แผน

<3.5 mEq/L

ห้ามเริ่ม insulin; ให้ KCl 10–20 mEq/ชม. (จำเป็นอาจ 30 mEq/ชม. ด้วย central line + monitor) จน >3.5

3.5–5.0

เติม KCl 10–20 mEq/ลิตร ในสารน้ำ เป้า K 4–5

>5.0

ยังไม่ให้ K; ตรวจซ้ำทุก 2 ชม.


3.4 อินซูลิน (IV เท่านั้นสำหรับ HHS)

  • เริ่มทันที ถ้า K 3.5
  • เลือกระดับเริ่มต้นตามความเด่นของโรค
    • HHS เด่น (ไม่มี acidosis/ketone ต่ำ) Regular insulin 0.05 U/kg/ชม.
    • Mixed HHS/DKA 0.1 U/kg/ชม.
  • คาดหวัง glucose ลด 50–70 mg/dL/ชม.
    • ถ้าไม่ถึง: เช็คสาย/ตัวกรอง แล้ว เพิ่มอัตรา x2 แบบรายชั่วโมง จนได้อัตราลดตามเป้า
  • เมื่อ glucose <250: ใส่ D5–D10 และ ลดอัตรา insulin เป็น 0.02–0.04 U/kg/ชม. (หรือ 0.05 ถ้าเป็น mixed)
  • ช่วงฟื้นตัว ให้คุม glucose 250–300 mg/dL ไปก่อน จนกว่าจะลด hyperosmolality และอาการทางประสาทดีขึ้น เพื่อลดเสี่ยง cerebral edema

หลีกเลี่ยง SC insulin ใน HHS เฉียบพลัน (เสี่ยงน้ำตาลตกเร็วเกิน)


3.5 Bicarbonate / Phosphate

  • Bicarbonate: โดยทั่วไป ไม่จำเป็น (HHS ไม่มี acidosis เด่น) — ถ้าเป็น mixed ให้ดูแนวทาง DKA
  • Phosphate: ไม่ให้ประจำ; พิจารณาเมื่อ Pi <1 mg/dL (0.32 mmol/L) หรือมี ภาวะหัวใจ/หายใจ/hemolysis เติม 20–30 mEq (K-/Na-phosphate) ใส่ใน 1 L IV; เฝ้าระวัง hypocalcemia/hypomagnesemia

4) เป้าหมาย/เกณฑ์ “HHS หาย”

ครบทุกข้อจึงถือว่า resolved:

1.       Effective Posm <300 mOsm/kg

2.       Glucose <250 mg/dL

3.       UOP >0.5 mL/kg/ชม.

4.       สภาพจิตรู้สึกตัวกลับ baseline


5) การเปลี่ยนเป็นอินซูลินฉีดใต้ผิวหนัง (เมื่อหายและเริ่มรับประทานได้)

  • ส่วนใหญ่ต้อง basal-bolus (MDI) ชั่วคราวอย่างน้อย
  • เคยใช้อินซูลินอยู่แล้ว: กลับสูตรเดิมได้ถ้าก่อนหน้า control ดี; pump กลับ basal (อาจเพิ่มชั่วคราวถ้า IV ต้องใช้สูง)
  • ไม่ได้ใช้อินซูลินมาก่อน: เริ่ม TDD 0.5–0.8 U/kg/วัน
    • Basal 40–60% (glargine U100/detemir/NPH)
    • Prandial ที่เหลือก่อนอาหาร
  • Overlap: ต่อ IV insulin อีก 1–2 ชม. หลังให้ SC rapid-acting เข็มแรก และ ฉีด basal ก่อนปิด IV

6) ตารางเฝ้าระวัง (Monitoring)

  • Glucose: ทุก 1 ชม. จนคงที่ แล้วทุก 2 ชม.
  • Lytes/BUN/Cr/Pi: ทุก 2–4 ชม. ตามความรุนแรง
  • Effective Posm: คำนวณทุก 2–4 ชม. (เป้า 3–8 mOsm/kg/ชม.)
  • ECG: baseline และเมื่อ K เปลี่ยน/ให้ K เร็ว
  • UOP: เป้า 0.5 mL/kg/ชม.

ไม่ใช้ CGM ในภาวะฉุกเฉิน (ดีเลย์/ความแม่นยำลดเมื่อมีภาวะรุนแรง)


7) ภาวะแทรกซ้อนและการป้องกัน

  • Hypoglycemia/Hypokalemia: ที่พบบ่อย ปรับอัตรา insulin, D5–D10, และ K ตามแผน
  • Cerebral edema (ผู้ใหญ่พบน้อย): ลด osmolality ค่อยเป็นค่อยไป และ เติม dextrose เมื่อ glucose <250; หากสงสัย พิจารณา mannitol 0.25–1 g/kg ± 3% NaCl 5–10 mL/kg/30 นาที
  • Hyperchloremic non-gap acidosis: พบได้เมื่อใช้ 0.9% NaCl ปริมาณมาก ลดความเสี่ยงด้วย balanced crystalloid
  • Noncardiogenic pulmonary edema: เฝ้าระวังในผู้ได้สารน้ำมาก/มีปัจจัยเสี่ยง

8) ใครควร ICU / สัญญาณอันตราย

  • ช็อก, GCS ต่ำ/ชัก/โฟกัสเดฟฟิซิต, K <3.0 หรือ >6.0, pH <7.0 (ถ้าเป็น mixed), AKI/oliguria, ต้องปรับ insulin/K อย่างใกล้ชิด, ร่วมโรครุนแรง (sepsis/AMI/Stroke)

9) Discharge & Prevention (ย่อ)

  • แก้ ปัจจัยกระตุ้น (ติดเชื้อ/ยา/ขาดน้ำ/ขาดอินซูลิน)
  • สอน sick-day rules (ดื่มน้ำ, วัดน้ำตาลถี่, อย่าหยุด basal, เมื่อไรต้องมา รพ.)
  • ปรับแผนยากลับบ้านที่ ทำได้จริง (ผู้สูงอายุ/มีผู้ดูแล), นัด DM education + follow-up ใกล้ ๆ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น