วันพฤหัสบดีที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2568

Anticoagulant

Anticoagulant


Direct Thrombin Inhibitors (DTIs) & Direct Factor Xa Inhibitors (DOACs)

แก่นสำคัญ

  • ยากลุ่มนี้ยับยั้งเอนไซม์เป้าหมายแบบ “ตรงจุดเดียว”: DTI ยับยั้ง thrombin (IIa); Xa inhibitor ยับยั้ง factor Xa ลดการสร้าง fibrin และ thrombin amplification
  • ประสิทธิผลโดยรวมใกล้/ดีกว่า VKA ในหลายข้อบ่งชี้ที่เหมาะสม และลด ICH ได้มากกว่า แต่ “เหมาะ-ไม่เหมาะ” ต้องพิจารณาตามโรค ผู้ป่วย และปฏิสัมพันธ์ยา
  • ใช้ง่าย ไม่ต้อง monitor INR เป็นกิจวัตร แต่มีขีดจำกัดเรื่อง CKD, ตับ, การตั้งครรภ์, APS, การผ่าตัดทางเดินอาหาร/ดูดซึมผิดปกติ, adherence

กลไก

  • DTI (univalent/divalent) จับ active site (± exosite I) ของ thrombin ยับยั้ง thrombin ทั้งในกระแสเลือดและที่จับกับลิ่ม
  • Direct Xa inhibitors จับ active site ของ Xa ตัดวงจร prothrombinase ลดการสร้าง thrombin (1 Xa สร้าง thrombin >1000 โมเลกุล)

รายชื่อยาใช้งานจริง

  • DTI: parenteral = bivalirudin, argatroban; oral = dabigatran
  • Direct Xa inhibitors (oral): rivaroxaban, apixaban, edoxaban (ไม่มีแบบฉีดที่ใช้งานจริง)

เปรียบเทียบกับ heparin/warfarin (ภาพรวม)

ข้อดี DOACs

  • ลด ICH และอาจลด mortality รวม; fracture risk ต่ำกว่า VKA (observational)
  • PK/PD เสถียรกว่า, drug–food interaction น้อย, ไม่ต้องตรวจ INR เป็นกิจวัตร
  • เริ่มออกฤทธิ์เร็ว ครึ่งชีวิตสั้น จัดการ peri-op ได้ยืดหยุ่นกว่า

ข้อด้อย/ข้อควรระวัง

  • ครึ่งชีวิตสั้น: ลืมยา 1–2 โดส เสี่ยงหลุด therapeutic มากกว่า VKA
  • ไม่มีการไตเตรตระดับเป้าหมายเหมือน INR (ใช้ “ยืนยันมีระดับยา/การดูดซึม” มากกว่า “เล็งค่าเป้าหมาย”)
  • ต้นทุนสูงกว่า VKA; interaction ผ่าน P-gp/CYP3A4 (ขึ้นกับตัวยา)

เมื่อ ไม่ควรใช้ DOAC หรือควรพิจารณา heparin/VKA

  • Mechanical valve
  • การตั้งครรภ์/วางแผนตั้งครรภ์ (เลือก LMWH)
  • APS โดยเฉพาะ arterial หรือมีลักษณะเสี่ยง (heparin warfarin)
  • CKD ระดับรุนแรง (CrCl <30 mL/min) — มักเลือก VKA หรือ dose-adjusted LMWH; หากจำเป็น apixaban มีข้อมูลสนับสนุนมากสุดใน CKD แต่ยังต้องระวัง
  • ตับรุนแรง (ตามข้อห้ามของแต่ละตัว/Child-Pugh)
  • ผ่าตัดลดน้ำหนัก/ทางเดินอาหารผิดสัณฐาน (ดูดซึมผิดปกติ) — พิจารณา heparin/VKA หรือวัดระดับยาเฉพาะกรณี
  • GI bleeding risk สูง: หลีกเลี่ยง rivaroxaban; apixaban มักเลือดออก GI น้อยกว่า
  • adherence ต่ำ/ไม่สม่ำเสมอ

ไต/ตับ

  • การขับทางไตโดยประมาณ: dabigatran 80–85% > edoxabanrivaroxaban ~35% > apixaban ~25%
  • CKD: mild–moderate (CrCl 30) DOACs โดยเฉพาะ apixaban มีผลดี/ปลอดภัยเทียบ VKA; CrCl <30 พิจารณา VKA/LMWH
  • ตับ: หลีกเลี่ยงในตับรุนแรง (ดูฉลากรายตัว) Child-Pugh A ใช้ได้ทุกตัว; B ใช้ apixaban, dabigatran ได้ด้วยความระวัง (ไม่ปรับ dose)

ปฏิสัมพันธ์ยา (หลัก ๆ)

  • P-gp (P-glycoprotein) substrate: dabigatran, edoxaban, rivaroxaban, apixaban ระวัง P-gp inducer (เช่น rifampin) & inhibitor (เช่น ketoconazole, verapamil โดยเฉพาะเมื่อไตเสื่อม)
  • CYP3A4 (โดยเฉพาะ rivaroxaban, apixaban): ระวัง dual CYP3A4 + P-gp inhibitors (เช่น -azole, ritonavir) และ strong inducers (rifamycins, carbamazepine, St. John’s wort)
  • apixaban + systemic fluconazole รายงานเลือดออกรวมเพิ่ม

ขนาดยา (สั้นย่อ/จำง่าย)

  • Dabigatran: VTE tx/secondary 150 mg bid หลัง heparin 5–10 วัน; AF 110–150 mg bid (ปรับตามอายุ/CrCl); หลีกเลี่ยง CrCl <15–30 (ขึ้นกับฉลากประเทศ)
  • Rivaroxaban: VTE tx 15 mg bid ×21 วัน 20 mg qd (with food); AF 20 mg q pm หรือ 15 mg (CrCl ); secondary VTE 10 mg qd เลือกใน low-risk; หลีกเลี่ยง CrCl <15–30 ตามข้อบ่งใช้
  • Apixaban: VTE tx 10 mg bid ×7 วัน 5 mg bid; secondary VTE 2.5 mg bid; AF 5 mg bid (ลดเป็น 2.5 mg bid ถ้ามี 2 เกณฑ์: อายุ 80, นน. 60 kg, Cr 1.5 mg/dL)
  • Edoxaban: VTE 60 mg qd (หรือลด 30 mg ตาม CrCl/นน./P-gp) หลัง heparin 5–10 วัน; AF หลีกเลี่ยง CrCl >95 หรือ <15

การตรวจทางห้องปฏิบัติการ/Monitoring

  • ไม่ต้องตรวจเป็นกิจวัตร แต่ควรมี baseline: CBC, PT/aPTT, SCr (±LFT)
  • ต้องการ “ยืนยันมีฤทธิ์ยา/ระดับยา” กรณีเลือดออก/overdose/ฉุกเฉินผ่าตัด/สงสัยดูดซึม:
    • Dabigatran: dilute TT/ECT (ดีที่สุด), aPTT พอบอกได้ว่า “มีฤทธิ์”; PT ไม่ไว
    • Xa inhibitors: anti-Xa assay ที่ calibrate ตามชื่อยา (ดีที่สุด); PT/aPTT ไม่เชื่อถือ
  • ไม่มี “ช่วงเป้าหมาย” มาตรฐาน—ค่าที่รายงานใช้เป็นแนว “คาดหวังระดับยามี/ไม่มี”

ภาวะแทรกซ้อน & การแก้ไข

  • เลือดออก: ทุกตัวมี Boxed warning เรื่อง neuraxial hematoma และ thrombosis เมือหยุดยากะทันหัน
  • Antidote/การกลับฤทธิ์
    • Dabigatran: idarucizumab; ล้างไตได้บางส่วน
    • Xa inhibitors: andexanet alfa (ที่เลือกใช้ได้จำกัด/ขึ้นกับทรัพยากร) หรือ 4F-PCC ตามสถานการณ์/แนวทางสถาบัน
  • Dyspepsia: พบมากกับ dabigatran (ข้อจำกัดการทนยา)
  • คำแนะนำ Beers 2023: เลี่ยง rivaroxaban ในผู้สูงอายุ 65 ปีหากมีทางเลือกที่ปลอดภัยกว่า; DOAC โดยรวมเหนือกว่า warfarin ในผู้สูงอายุถ้าไม่มีข้อห้าม

กลุ่มพิเศษ

  • BMI สูง/อ้วนมาก: ข้อมูลสนับสนุน rivaroxaban/apixaban ขนาดมาตรฐานได้ถึง BMI >40–50 kg/m²/น้ำหนัก 120 kg (ตามหลักฐานปัจจุบัน); dabigatran หลีกเลี่ยงเมื่อ BMI >40/น้ำหนัก >120
  • หลังผ่าตัดลดน้ำหนัก: ช่วงแรกเลือก parenteral พิจารณาเปลี่ยน DOAC ที่มีผลดูดซึมน้อย (apixaban) และอาจตรวจ trough เพื่อยืนยัน

ข้อปฏิบัติเรื่อง adherence

  • วางระบบเตือน, ทบทวนยาร่วม, ควบคุมความดัน, ประเมินความเสี่ยงหกล้ม
  • ลืมยาใน DOAC มีผลกว่าลืม warfarin เน้นกำกับรับประทานอย่างเคร่งครัด

Transition ระหว่างยาต้านการแข็งตัว

  • VKA DOAC: เริ่ม DOAC เมื่อ INR ลดถึงเกณฑ์ของแต่ละตัว (apix/dabigatran INR <2; rivaroxaban <3; edoxaban 2.5)
  • DOAC VKA: ต้อง overlap/หรือใช้ heparin bridge ตามตัวยา (Xa inhibitors รบกวน INR ให้ตรวจใกล้เวลาถัดไปของ DOAC หรือใช้ parenteral ระหว่างเริ่ม VKA)
  • DOAC DOAC: สลับตรงเมื่อถึงเวลานัดโดสถัดไป
  • Argatroban VKA: ระวัง INR ที่สูงหลอกจาก argatroban—ทำตามแนวทางสถาบัน

 

เคล็ดลับใช้งานจริง (Pearls)

  • Dabigatran: เก็บในขวด/แผงเดิมเท่านั้น (ดูดความชื้น) เปิดขวดแล้วใช้ให้หมดใน 4 เดือน; แคปซูลห้ามบด/เปิด
  • Rivaroxaban 15/20 mg ควรรับ “พร้อมอาหาร”
  • เลือก apixaban เมื่อกังวลเลือดออกทาง GI/CKD ระดับปานกลาง/สูงอายุ
  • เลือก rivaroxaban/edoxaban เมื่อความสะดวกวันละครั้งสำคัญ (พิจารณา bleeding profile)
  • หลีกเลี่ยง DOAC ใน mechanical valve/ตั้งครรภ์/APS เสี่ยงสูง
  • ผู้ป่วย “ควบคุม INR ดีมากด้วย warfarin และไม่มีผลข้างเคียง” อาจไม่มีเหตุผลต้องเปลี่ยน

 


Heparin และ Low Molecular Weight Heparin (LMWH)

1. กลไกการออกฤทธิ์ (Mechanism of Action)

  • Heparin และ LMWH ออกฤทธิ์ ทางอ้อม (indirectly) โดยจับกับ antithrombin (AT) ทำให้ AT เปลี่ยนโครงสร้างและสามารถยับยั้ง Factor IIa (thrombin) และ Factor Xa ได้เร็วขึ้น (~1000–4000 เท่า)
  • Unfractionated Heparin (UFH): มีสาย polysaccharide ยาว 18 หน่วย สามารถสร้าง ternary complex (heparin–AT–thrombin) ยับยั้งทั้ง Xa และ IIa ได้
  • LMWH: สายสั้นกว่า ยับยั้งได้เฉพาะ Factor Xa > IIa
  • Fondaparinux: pentasaccharide ล้วน ยับยั้งเฉพาะ Factor Xa ผ่าน AT ไม่มีฤทธิ์ต่อ thrombin

2. เภสัชจลนศาสตร์ (Pharmacology)

ลักษณะ

UFH

LMWH

การให้ยา

IV / SC

SC (ส่วนใหญ่), IV (บางกรณี)

Onset

IV: ทันที

SC: 3–5 ชม.

Half-life

~1 ชม. (dose-dependent)

3–7 ชม. (ยาวกว่า)

การขับออก

ตับและระบบ RES

ตับ + ไต (renal clearance 10–40%)

การสะสมใน CKD

ไม่มี

มีใน CrCl <30 mL/min (ต้องลดขนาดหรือใช้ UFH แทน)

การข้ามรก / น้ำนม

ไม่ข้าม

ไม่ข้าม


3. ข้อดีและข้อจำกัด

UFH

ข้อดี

  • onset/offset เร็ว เหมาะในภาวะต้องการควบคุมระดับยาเร็ว (เช่น perioperative, acute PE, renal failure)
  • ใช้ใน renal failure, pregnancy, lactation ได้
  • มี antidote (protamine) กลับฤทธิ์ได้หมด
  • monitoring ได้ด้วย aPTT หรือ anti-Xa
  • extensive clinical experience

ข้อจำกัด

  • ครึ่งชีวิตสั้น ต้อง continuous IV
  • ความสัมพันธ์ระหว่าง dose–response แปรปรวน ต้อง monitor ถี่
  • เสี่ยง bleeding สูงกว่า LMWH
  • เสี่ยง HIT และ osteoporosis (เมื่อใช้ระยะยาว)
  • ไม่มี oral form

LMWH

ข้อดี

  • bioavailability สูง (~90%)
  • ฉีดใต้ผิวหนังวันละ 1–2 ครั้ง
  • predictable dose–response ไม่ต้อง monitor
  • HIT และ osteoporosis น้อยกว่า UFH
  • เหมาะในผู้ป่วยนอก/ตั้งครรภ์

ข้อจำกัด

  • reverse ยาได้ไม่หมดด้วย protamine
  • ขับออกทางไต (ต้องลด dose ใน CKD)
  • onset ช้ากว่า UFH เล็กน้อย

4. การตรวจพื้นฐานก่อนให้ยา

  • CBC (Hb, platelet)
  • PT, aPTT
  • Liver function test (transaminase)
  • Serum creatinine (สำหรับ LMWH)

5. ขนาดยาและการปรับขนาด (Dosing)

UFH

  • Therapeutic dose:
    IV bolus 80 units/kg continuous infusion 18 units/kg/h
    ปรับตาม nomogram เพื่อให้ aPTT 1.5–2.5× control หรือ anti-Xa 0.3–0.7 IU/mL
  • Prophylactic dose:
    SC 5000 units q8–12h (ไม่ต้อง monitor)
  • High bleeding risk: ใช้ low-intensity nomogram / omit bolus

LMWH (เช่น Enoxaparin)

ขนาดยา

จุดประสงค์

หมายเหตุ

1 mg/kg SC q12h หรือ 1.5 mg/kg q24h

VTE treatment

ลดขนาดเมื่อ CrCl <30

40 mg SC qd

VTE prophylaxis

dose ใน BMI <18 หรือ weight <55 kg

30 mg SC qd (CrCl <30)

CKD

หรือใช้ UFH แทน

ใน BMI 40 kg/m² พิจารณาเพิ่มขนาด (40 mg bid หรือ 0.5 mg/kg/day)


6. การติดตามผล (Monitoring)

ยา

การตรวจ

ค่าเป้าหมาย

หมายเหตุ

UFH

aPTT หรือ anti-Xa

aPTT 1.5–2.5× control หรือ anti-Xa 0.3–0.7 IU/mL

ตรวจ 4–6 ชม. หลังเริ่ม/ปรับ dose

LMWH

anti-Xa (เฉพาะกรณี)

0.5–1.0 IU/mL (treatment, bid dose)

ใช้ใน CKD, extremes of weight, pregnancy

Platelet count

ทุก 2–3 วัน (UFH), สัปดาห์ละ 1 (LMWH)

เพื่อเฝ้าระวัง HIT


7. ภาวะแทรกซ้อน (Complications)

ภาวะ

รายละเอียด

Bleeding

เสี่ยงเพิ่มเมื่อใช้ร่วมกับ NSAID/ASA, CKD, สูงอายุ, trauma, surgery

Heparin-Induced Thrombocytopenia (HIT)

เกิดใน 1–5% ของ UFH, <1% ใน LMWH; ควรเฝ้าระวัง platelet

Osteoporosis

พบใน UFH ใช้ >6 เดือน

Hyperkalemia

จาก heparin-induced hypoaldosteronism

Skin reactions

แดง คัน หรือ necrosis บริเวณฉีด; แยกจาก HIT

Anaphylaxis/Allergy

หายากมาก


8. การแก้ไขเมื่อเลือดออก (Reversal)

สาร

ขนาดยา

หมายเหตุ

Protamine sulfate

1 mg protamine / 100 units heparin IV (max 50 mg/10 min)

กลับฤทธิ์ UFH ได้เต็มที่

1 mg protamine / 1 mg enoxaparin (ถ้า <8 ชม.)

กลับฤทธิ์ LMWH ได้บางส่วน (~60%)

Andexanet alfa

800 mg bolus + infusion 8 mg/min x 120 min (off-label)

ใช้ใน LMWH refractory bleeding

หยุดยา

UFH: หยุด 4–6 ชม. หายหมด; LMWH: 24 ชม. (ขึ้นกับไต)

สำหรับ elective procedure หรือ minor bleed


9. การเปลี่ยนยาระหว่าง anticoagulants

จาก ถึง

วิธีการ

Heparin Warfarin

overlap 4–5 วัน จน INR therapeutic 24 ชม.

Warfarin Heparin

เริ่ม UFH เมื่อ INR <2

Heparin DOAC

หยุด UFH ทันทีเมื่อเริ่ม DOAC; LMWH เริ่ม DOAC ก่อนเวลาฉีดถัดไป

DOAC Heparin

เริ่ม UFH เมื่อ DOAC level <30 ng/mL หรือ anti-Xa <0.7 IU/mL


10. การใช้ในกลุ่มพิเศษ

  • Pregnancy: ใช้ UFH หรือ LMWH ได้; ใช้ preservative-free vial (ไม่มี benzyl alcohol)
  • Breastfeeding: ใช้ได้ ปลอดภัย
  • CKD (CrCl <30): หลีกเลี่ยง LMWH; ใช้ UFH แทน
  • Children/Neonates: ใช้ preservative-free heparin; ปรับขนาดตามน้ำหนักและ monitoring เฉพาะ
  • Obesity/Underweight: LMWH ใช้น้ำหนักจริง; พิจารณา anti-Xa monitoring

11. ภาวะ Heparin Resistance

  • นิยาม: ต้องใช้ UFH >30 units/kg/hr หรือ >35,000 units/day เพื่อให้ aPTT therapeutic
  • สาเหตุ: AT deficiency, heparin-binding proteins สูง, fibrinogen/Factor VIII สูง
  • ตรวจ anti-Xa เพื่อยืนยันระดับยา
  • ถ้า AT deficiency จริง พิจารณาให้ AT concentrate

12. สรุปเชิงคลินิก

ประเด็น

UFH

LMWH

Route

IV, SC

SC

Monitoring

aPTT / anti-Xa

ไม่จำเป็น (เฉพาะบางกรณี)

Reversal

Protamine 100%

Protamine partial

HIT risk

สูงกว่า

ต่ำกว่า

CKD

ใช้ได้

ต้องลดขนาดหรือหลีกเลี่ยง

Outpatient use

ไม่สะดวก

สะดวก

Pregnancy safe

✔️

✔️

 

Pearls for Practice

  • UFH: เหมาะใน CKD, ต้องการ onset/offset เร็ว, perioperative case
  • LMWH: เหมาะสำหรับการรักษาและป้องกัน VTE ในผู้ป่วยนอก, ตั้งครรภ์
  • Protamine: ให้ช้า (5 mg/min), max 50 mg/10 นาที
  • เฝ้าระวัง HIT โดยดู platelet ทุก 2–3 วันใน UFH
  • หลีกเลี่ยงการใช้ heparin flush จากขวดความเข้มข้นสูง (เสี่ยง fatal error)

Fondaparinux (Arixtra)

1. บทนำ (Introduction)

Fondaparinux เป็นยาต้านการแข็งตัวของเลือดชนิดสังเคราะห์ (synthetic anticoagulant) ที่ออกฤทธิ์เฉพาะเจาะจงต่อ Factor Xa โดยอาศัยการกระตุ้น antithrombin (AT) แต่ ไม่มีฤทธิ์ต่อ thrombin (Factor IIa) เลย ต่างจาก heparin และ LMWH ที่ยังยับยั้ง thrombin ได้บ้าง

ยานี้มี โครงสร้าง pentasaccharide ที่เป็นลำดับจำเพาะของ heparin ซึ่งจับกับ AT ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงและเสถียร จึงเรียกว่าเป็น indirect Factor Xa inhibitor


2. กลไกการออกฤทธิ์ (Mechanism of Action)

  • จับกับ antithrombin (AT) แบบ 1:1 ทำให้ AT เปลี่ยนโครงสร้าง เพิ่มความสามารถในการยับยั้ง Factor Xa อย่างจำเพาะ
  • ไม่สามารถสร้าง ternary complex (AT–thrombin–heparin) ได้ จึง ไม่มีผลต่อ thrombin (Factor IIa)
  • ไม่จับกับ platelet หรือ platelet factor 4 (PF4) ไม่ก่อให้เกิด HIT

3. เภสัชจลนศาสตร์ (Pharmacology)

คุณสมบัติ

รายละเอียด

การให้ยา

Subcutaneous (SC) เท่านั้น

Bioavailability

100% หลังฉีด SC

Tmax

1.7 ชั่วโมง

Half-life

15–17 ชั่วโมง

การขับออก

ไต 100% (unchanged form)

ระยะคงฤทธิ์หลังหยุดยา

2–4 วัน (3–5 ครึ่งชีวิต)

hepatic metabolism

ไม่มีนัยสำคัญ

ห้ามใช้ในผู้ป่วย CrCl <30 mL/min เนื่องจาก clearance ลดลงมากและเสี่ยงเลือดออก


4. ข้อดีและข้อจำกัด

ข้อดี

  • ฉีดวันละครั้ง (half-life ยาว)
  • ไม่เกิด HIT หรือ platelet activation
  • ไม่ต้องตรวจการแข็งตัวเป็นประจำ (monitoring-free)
  • ไม่มีปฏิสัมพันธ์กับ plasma protein หรือยาอื่น

ข้อจำกัด

  • ต้องให้ parenteral (SC) ไม่มี oral form
  • ไม่มี antidote ที่อนุมัติอย่างเป็นทางการ
  • ไม่เหมาะใน CKD, น้ำหนักน้อย, หรือผ่าตัดสมอง/ไขสันหลัง
  • ไม่เหมาะใน pregnancy เว้นกรณีแพ้ heparin หรือ HIT

5. ข้อบ่งใช้ (Indications)

ใช้เพื่อ:

  • VTE prophylaxis ในผู้ป่วยศัลยกรรมหรือผู้ป่วยใน
  • Treatment ของ DVT / PE
  • Superficial vein thrombosis
  • Acute coronary syndrome (NSTEMI/UA)
  • ทางเลือกในผู้ป่วยที่มี HIT หรือ VITT
    (แต่ควรระวัง มีรายงาน HIT-like บางกรณีแม้พบได้น้อยมาก)

6. ข้อห้ามใช้ (Contraindications)

  • CrCl <30 mL/min
  • น้ำหนัก <50 kg (หากใช้เพื่อ prophylaxis)
  • Active major bleeding
  • Bacterial endocarditis
  • การผ่าตัดสมอง / spinal surgery
  • การตั้งครรภ์ (ยกเว้นกรณีแพ้ heparin/HIT)
  • platelet <70,000/µL (หากจาก bone marrow suppression)

7. ขนาดยา (Dosing)

(1) VTE Prophylaxis

  • 2.5 mg SC วันละครั้ง
  • เริ่ม 6–8 ชั่วโมงหลังผ่าตัด (หลังปิดแผล)
  • หลีกเลี่ยงในน้ำหนัก <50 kg หรือ CrCl <30

(2) VTE Treatment

น้ำหนัก

ขนาดยา

<50 kg

5 mg SC วันละครั้ง

50–100 kg

7.5 mg SC วันละครั้ง

>100 kg

10 mg SC วันละครั้ง

(3) Superficial vein thrombosis

  • 2.5 mg SC วันละครั้ง

(4) Acute Coronary Syndrome

  • 2.5 mg SC วันละครั้ง

8. การเฝ้าระวัง (Monitoring)

โดยทั่วไป ไม่ต้องตรวจระดับยา
แต่สามารถตรวจ anti-factor Xa activity (calibrated สำหรับ fondaparinux) ได้ในบางกรณี เช่น CKD หรือ extreme weight

การตรวจ

หมายเหตุ

Anti-Xa (เฉพาะกรณี)

Therapeutic: 0.5–1.5 mcg/mL; Prophylaxis: 0.39–0.5 mcg/mL

PT / aPTT

ไม่เหมาะใช้ monitoring; aPTT อาจยาวขึ้นเล็กน้อยที่ dose สูง

SCr / CrCl

ตรวจ baseline และระหว่างใช้ (โดยเฉพาะถ้าใช้ระยะยาว)

Platelet

ไม่ต้องตรวจเป็นกิจวัตร (HIT แทบไม่พบ)


9. การเปลี่ยนยาระหว่าง anticoagulants

จาก ถึง

วิธีเปลี่ยน

Warfarin Fondaparinux

เริ่มเมื่อ INR <2

Fondaparinux Warfarin

overlap 5 วัน จน INR therapeutic

Fondaparinux DOAC

เริ่ม DOAC 24 ชม. หลัง dose สุดท้าย

Heparin/LMWH Fondaparinux

เริ่มทันทีหลังหยุดยาเดิม


10. การใช้ในกลุ่มพิเศษ

กลุ่มผู้ป่วย

ข้อควรระวัง

CKD (CrCl 30–50)

ใช้ได้ด้วยความระมัดระวัง; หลีกเลี่ยง <30

Elderly (>75 ปี)

ปลอดภัยถ้าน้ำหนัก >50 kg และไตปกติ

Pregnancy

ใช้เฉพาะกรณีแพ้ heparin หรือมี HIT

Children

ใช้จำกัดมาก เฉพาะใน HIT

Underweight (<50 kg)

หลีกเลี่ยง prophylaxis; ลด dose ถ้าใช้เพื่อรักษา


11. ผลข้างเคียง (Adverse Effects)

อาการ

หมายเหตุ

Bleeding

Major 1–2%, Nonmajor 6–8%; เสี่ยงมากขึ้นใน CKD, น้ำหนัก <50 kg, ชายสูงอายุ

Spinal/epidural hematoma

มี boxed warning; ห้ามให้ร่วมกับ neuraxial catheter

Thrombocytopenia (HIT)

พบได้น้อยมาก

Local reaction / rash

พบน้อยกว่า LMWH

Hepatic enzyme elevation

บางรายแต่ไม่สำคัญทางคลินิก


12. การจัดการเลือดออก (Bleeding Management)

แนวทาง

รายละเอียด

หยุดยา

ฤทธิ์หมดภายใน 2–4 วัน (ขึ้นกับไต)

Andexanet alfa

ใช้ได้ (off-label); กลไก: inactive Xa จับและ neutralize fondaparinux

aPCC (FEIBA)

อาจใช้ใน major bleed; ช่วยเพิ่ม thrombin generation

rFVIIa (90 µg/kg)

อาจช่วยบางส่วน (ลด aPTT และเพิ่ม thrombin potential)

Protamine / Vit K

ไม่มีผล

Dialysis

อาจช่วยลดระดับยาได้บางส่วน

เลือดออกเล็กน้อย

หยุดยา + supportive care

Major bleeding / emergency surgery

พิจารณา andexanet หรือ aPCC; monitor ด้วย fondaparinux-calibrated anti-Xa (ถ้ามี)


13. การหยุดยาก่อนผ่าตัด (Perioperative Management)

สถานการณ์

ระยะเวลาหยุดก่อนผ่าตัด

ไตปกติ

2–4 วัน (ครึ่งชีวิต 15–17 ชม.)

CKD (CrCl 30–50)

3–5 วัน

ผ่าตัดเลือดออกต่ำ

อาจพอเพียงที่ 24 ชม.

เริ่มยาใหม่หลังผ่าตัด

6 ชม. หลังปิดแผล (หรือเช้าวันรุ่งขึ้น)


14. สรุปเปรียบเทียบ (Clinical Summary Table)

คุณสมบัติ

Fondaparinux

LMWH

UFH

กลไก

Indirect Xa inhibitor

Xa > IIa

Xa = IIa

Route

SC

SC / IV

IV / SC

Half-life

15–17 h

4–7 h

1–2 h

Frequency

OD

OD–BID

Continuous / q8h

HIT

ไม่มีรายงาน (ยกเว้นหายากมาก)

พบได้น้อย

พบได้บ่อย

CKD <30

ห้ามใช้

ต้องลด dose

ใช้ได้

Monitoring

ไม่ต้อง

บางราย

ต้องตรวจ aPTT

Reversal

ไม่มีเฉพาะ (andexanet off-label)

Protamine partial

Protamine 100%

Pregnancy

หลีกเลี่ยง

ใช้ได้

ใช้ได้

ราคา

แพงกว่า

ปานกลาง

ถูก

 

🔹 สรุปสำหรับแพทย์

Fondaparinux เป็นยาทางเลือกที่ออกฤทธิ์จำเพาะต่อ Factor Xa โดยไม่ทำให้เกิด HIT เหมาะในกรณีที่ต้องการ once-daily SC injection และไม่มี renal impairment อย่างรุนแรง ใช้ได้ทั้งใน prophylaxis และ treatment ของ VTE หรือใน HIT แทน heparin/LMWH ได้ แต่ควรหลีกเลี่ยงใน CrCl <30 mL/min, น้ำหนัก <50 kg, และ pregnancy (ยกเว้นแพ้ heparin) เพราะ ไม่มี antidote โดยตรง และ clearance ขึ้นกับไตโดยสมบูรณ์.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น