วันพฤหัสบดีที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2568

Thrombophilia testing

Thrombophilia testing


Evaluation of VTE for thrombophilia & occult malignancy (adult)

ภาพรวม

ผู้ป่วย VTE ส่วนใหญ่มาจาก DVT ขาล่างและ PE ปัจจัยเสี่ยงมักพบได้ (acquired/inherited) การตรวจคัดกรอง thrombophilia/มะเร็ง “ไม่ควรทำแบบรูทีนในทุกคน” ให้เลือกทำเฉพาะกลุ่มที่มีโอกาสได้ประโยชน์ และต้องคำนึงว่าผลตรวจมัก “ไม่เปลี่ยนระยะเวลาการให้ anticoagulation” ในเหตุการณ์แรกที่เป็น unprovoked


ขั้นตอนเริ่มต้น (ทุกราย)

  • ประวัติ/ตรวจร่างกาย เน้น:
    • provoking factors: ผ่าตัด/อุบัติเหตุ/นอน รพ. 90 วัน, การติดเชื้อ (รวม COVID-19), ตั้งครรภ์/immobility
    • ยา: OCP/HRT, heparin (เสี่ยง HIT), วัคซีน COVID-19 บางชนิดสัมพันธ์กับ thrombocytopenia
    • โรคเสี่ยง: SLE/APS, IBD, nephrotic syndrome, MPN, PNH
    • ประวัติสูติ-นรีเวช: fetal loss (สงสัย APS หรือ inherited thrombophilia)
    • ประวัติครอบครัว VTE (โดยเฉพาะ first-degree <45 ปี)
    • อาการบ่งชี้มะเร็ง (น้ำหนักลด เบื่ออาหาร ไอมีเลือด เปลี่ยน habit ถ่าย ฯลฯ)
  • แล็บ/ภาพถ่ายพื้นฐาน:
    • CBC + smear (ดู Hct/Plt สูง—สงสัย MPN; anemia/leukopenia/ thrombocytopenia—สงสัย PNH; schistocytes—DIC/TMA)
    • PT/INR, aPTT (aPTT ยืดที่ไม่แก้ด้วย mixing test lupus anticoagulant)
    • LFT, renal function, UA (hematuria โปรดพิจารณาโรคไต/มะเร็ง)
    • Imaging เฉพาะที่จำเป็นเพื่อวินิจฉัย VTE; สังเกต incidentaloma/adenopathy/splenomegaly; thrombosis หลายตำแหน่ง/vascular bed แปลก นึกถึง MPN/APS/PNH/มะเร็ง

ใคร “ควรพิจารณา” ตรวจ hypercoagulable disorders

ไม่ทำรูทีนในผู้ป่วยทั่วไป แต่ทำในกลุ่มต่อไปนี้:

1.       มีประวัติครอบครัว VTE (first-degree <45 ปี) ตรวจ inherited 5 รายการครบ (Protein C/S, Antithrombin, FVL, Prothrombin gene mutation (G20210A))

2.       ผู้ป่วยอายุน้อย <45 ปี (โดยเฉพาะ unprovoked) ตรวจ inherited 5 รายการ + APS (aPL + LA, ทวนซ้ำที่ 12 สัปดาห์)

3.       VTE ซ้ำ (recurrent) inherited + APS และพิจารณาค้นหามะเร็งเพิ่มเติม

4.       Thrombosis ในตำแหน่ง “ผิดปกติ” (portal/hepatic/mesenteric/cerebral) inherited + APS และเพิ่ม JAK2 mutation ± PNH (paroxysmal nocturnal hemoglobinuria) flow cytometry (โดยเฉพาะ hepatic/portal)

5.       เคยเกิด warfarin-induced skin necrosis นึกถึง Protein C deficiency (± Protein S, FVL)

6.       Arterial thrombosis (stroke/renal/mesenteric ischemia ฯลฯ) ตรวจ APS เป็นหลัก (การตรวจ inherited venous thrombophilia โดยทั่วไป “ไม่จำเป็น” ยกเว้นสงสัย paradoxical emboli)


ใคร “ไม่ควร” ตรวจ thrombophilia (โดยทั่วไปไม่เกิดประโยชน์)

  • First episode “provoked” VTE
  • First episode “unprovoked” VTE (ส่วนใหญ่ไม่เปลี่ยนระยะเวลารักษา)
  • Upper extremity DVT (primary/catheter-related) โดยทั่วไปไม่เปลี่ยนแผน
  • ผู้ป่วยที่มีสาเหตุชัดเจนอยู่แล้ว: active malignancy, IBD, MPN, HIT-with-thrombosis, retinal vein thrombosis (รวมใน preeclampsia)

ควรตรวจ “อะไร”

  • Inherited thrombophilia panel (เมื่อเข้าเกณฑ์):
    • FVL (DNA test หรือ APC (activated protein C) resistance “2nd-gen assey” ถ้าผิดปกติค่อย genotype)
    • Prothrombin G20210A gene mutation (molecular)
    • Protein C: functional assay
    • Protein S: free antigen (ดีที่สุดสำหรับ screen)
    • Antithrombin: AT-heparin cofactor assay (anti-Xa หรือ anti-IIa)
  • APS:
    • aPTT อาจยืด; aCL (anticardiolipin), anti-β2GPI (beta2-glycoprotein I Ab), และ LA (lupus anticoagulant) ควรยืนยัน “persistent” 12 สัปดาห์
  • Others (เลือกตามกรณี):
    • JAK2 V617F: Budd-Chiari/portal/mesenteric thrombosis หรือเมื่อมี Hct/Plt สูง
    • PNH: เมื่อมี cytopenia/hemolysis/ thrombosis ผิดปกติ (flow cytometry)
    • ไม่แนะนำ homocysteine/MTHFR (ไม่มีประโยชน์เชิงการรักษา)

เวลาในการตรวจ (Timing) & ผลกระทบจากยาต้านการแข็งตัว

หลัก: เลี่ยงตรวจระหว่าง acute thrombosis/ขณะได้ anticoagulant หากทำได้ ให้ตรวจ “2 สัปดาห์หลังหยุดยา”

  • Acute thrombosis: ลด AT และ Protein S (Protein C มักไม่ลดชัด)
  • Heparin: ลด AT และทำ LA false-positive ได้
  • Warfarin: ลด functional Protein C/S (และ antigen บ้าง) กระทบการตรวจ LA
  • DOACs/DTI: ทำให้ค่า AT/Protein C/S “สูงเกินจริง” ในบางวิธีทดสอบ
  • ถ้าตรวจ baseline “ก่อนเริ่มยา” แล้วปกติชัดเจน มักตัดภาวะขาด AT/Protein C/S ได้
  • ถ้าผลต่ำในช่วงไม่เหมาะสม ต้อง “ตรวจยืนยันซ้ำ” หลังหยุดยาตามระยะ

เป้าหมาย/ประโยชน์ของการตรวจ (เมื่อคัดเลือกเหมาะสม)

  • เอกสาร/ระบุปัจจัยเสี่ยงเชิงชีววิทยา เพื่อ
    • วางแผน thromboprophylaxis ในเหตุการณ์เสี่ยงในอนาคต (เช่น ผ่าตัดใหญ่)
    • ให้คำปรึกษาญาติสายตรง (หลีกเลี่ยงฮอร์โมน ตั้งครรภ์บางรายให้ LMWH prophylaxis ฯลฯ)
    • อธิบาย obstetric morbidity (APS) และแนวทางดูแลตั้งครรภ์
  • ข้อควรระวัง: ผลตรวจ “มักไม่เพิ่มการรอดชีวิต/ลด recurrence” และอาจนำไปสู่ over-anticoagulation/ความกังวลเกินจำเป็น

การประเมินมะเร็งแฝง (occult malignancy)

หลัก: “ไม่คัดกรองเชิงรุกทุกราย” ให้ทำเพียง “limited screening + age-appropriate screening” ใน first unprovoked VTE ที่ไม่ซับซ้อน

  • Limited strategy (แนะนำใน first unprovoked VTE):
    • ประวัติ/ตรวจร่างกายละเอียด (รวม DRE, pelvic exam ในสตรี, fecal occult blood)
    • CBC, ESR, UA, electrolytes, Ca, Cr, LFT
    • Chest X-ray
    • Age-appropriate cancer screening (เช่น cervical, breast, colon, prostate ตามแนวทางอายุ/เพศ/ปัจจัยเสี่ยง)
    • หากมีความผิดปกติ สอบสวนต่อเฉพาะจุด
  • ไม่แนะนำรูทีน: PET/CT, tumor markers, CT ทั้งตัว ในผู้ป่วย unselected (ยังไม่แสดงประโยชน์ด้าน survival)
  • ใคร “สมควร” ขยายการตรวจ (extensive, symptom-directed):
    • มีอาการ/สัญญาณชี้นำมะเร็ง
    • VTE ซ้ำระหว่างได้ anticoagulation เหมาะสม
    • Splanchnic/cerebral vein thrombosis (ร่วมประเมิน MPN (myeloproliferative disorder)/JAK2)
    • Arterial thromboembolism ที่สงสัย NBTE (nonobacterial thrombotic enodcarditis)
  • ช่วงเวลา: หากจะตรวจ ให้ทำภายใน 6 เดือนแรก (ช่วงที่อุบัติการณ์พบมะเร็งสูงสุด)

Algorithm ใช้งานไว

1.       วินิจฉัย VTE เริ่ม anticoagulation ตามมาตรฐาน

2.       ซัก/ตรวจ/แล็บพื้นฐาน + CXR + age-appropriate cancer screening

3.       จัดกลุ่มผู้ป่วย:

o   Provoked VTE ไม่ตรวจ thrombophilia/มะเร็งเพิ่มเติม (นอกจากมี red flags)

o   First unprovoked, uncomplicated ทำ “limited cancer screen” เท่านั้น; ไม่ตรวจ thrombophiliaเป็นรูทีน

o   เข้าข่ายกลุ่มเสี่ยง thrombophilia (ดูรายการข้างบน) ตรวจ panel ที่เหมาะ + APS (ทวนซ้ำตามเวลา)

o   เข้าข่ายกลุ่มเสี่ยงมะเร็ง (อาการ/ซ้ำ/ตำแหน่งผิดปกติ) ขยายการตรวจแบบ symptom-directed (เช่น CT chest/abdomen/pelvis ฯลฯ)

4.       วางแผนติดตามผลตรวจที่ได้รับผลกระทบจากยา/ภาวะเฉียบพลัน นัด re-test หลังหยุดยาตามกำหนด

5.       ให้คำปรึกษาครอบครัว/อนามัยเจริญพันธุ์เมื่อพบ inherited thrombophilia หรือ APS

 

ข้อควรจำ (Pearls & Pitfalls)

  • “Unprovoked” เป็นตัวกำหนดความเสี่ยง recurrence มากกว่าการมี thrombophilia ไม่ควรใช้ผลตรวจเป็นเหตุหยุด/ต่อ anticoagulation โดยลำพัง
  • การตรวจ APS ต้อง “ยืนยันความคงอยู่” ของ aPL/LA 12 สัปดาห์
  • DOAC/DTI ทำผล functional assays เพี้ยนได้มาก วางแผนหยุดยา/bridging หากจำเป็นต่อการวินิจฉัย
  • MTHFR (methylene tetrahydrofolate reductase)/homocysteine ไม่ช่วยตัดสินใจการรักษา ไม่แนะนำตรวจ
  • สื่อสารเป้าหมาย/ข้อจำกัดของการตรวจให้ผู้ป่วยทราบก่อนลงมือเสมอ

Pediatric thrombophilia testing (ในเด็กที่มี VTE/Stroke)

ภาพรวม

  • VTE/Stroke ในเด็ก “พบไม่บ่อยในเด็กสุขภาพดี” แต่เพิ่มขึ้นในผู้ป่วยใน; ปัจจัยเสี่ยงที่พบบ่อยสุดคือ CVC
  • Inherited thrombophilia (IT) พบได้หลากหลายตามกลุ่มผู้ป่วย; พบสูงสุดใน “unprovoked VTE” และต่ำใน “CVC-related VTE”

คำจำกัดความสำคัญ

  • IT หลักที่มีหลักฐานชัด: FVL, Prothrombin G20210A, Antithrombin deficiency, Protein C deficiency, Protein S deficiency
  • ความเสี่ยงสูง: AT/Protein C/Protein S deficiency, FVL/Prothrombin “homozygous”
  • ไม่แนะนำใช้ MTHFR เป็น IT

ความสัมพันธ์ IT กับ Pediatric VTE

  • เด็กส่วนใหญ่มีหลายปัจจัยร่วม: prematurity, มะเร็ง, CHD, ติดเชื้อ, CVC, ฮอร์โมนเอสโตรเจน, trauma/immobilization
  • ความชุก IT โดยรวม ~10–60% (สูงสุดใน unprovoked; ต่ำใน CVC-related)

หลักคิดก่อนสั่งตรวจ thrombophilia ในเด็กที่มี VTE

ถาม 4 ข้อ:

1.       โอกาสมี IT สูงไหม? (สูงใน unprovoked)

2.       ผลตรวจเปลี่ยน “การรักษาเฉียบพลัน” ไหม? (โดยทั่วไป ไม่ ยกเว้น neonatal purpura fulminans)

3.       ผลตรวจจะเปลี่ยน “ระยะเวลาให้ยาต้านการแข็งตัว” ไหม? (หลักใหญ่ยึด provoked vs unprovoked; IT บางชนิดอาจชี้ให้รักษานานขึ้นแบบ case-by-case)

4.       ประโยชน์อื่น: วางแผน thromboprophylaxis ในเหตุการณ์เสี่ยง, ให้คำปรึกษาครอบครัว/คุมกำเนิด


ใคร “ควร/ไม่ควร” ตรวจ (Algorithm ย่อ)

ไม่ตรวจ (โดยทั่วไป):

  • First episode CVC-related VTE (ยกเว้นมี strong family history: first-degree <40y)
  • First provoked VTE ชัดเจน (เช่น severe infection/major surgery/nephrotic/CHD)

พิจารณาตรวจ:

  • Recurrent VTE (รวม CVC-related ซ้ำ)
  • Unprovoked VTE (พบได้น้อยในเด็ก แต่ recurrence สูงกว่า)
  • Provoked VTE ที่ไม่ชัด/เหตุการณ์แปลก หรือผู้ปกครองต้องการทราบหลังรับทราบข้อดี-ข้อเสีย

ตรวจอะไร (เมื่อจะตรวจ)

แกนหลัก 5 รายการ + APS (ตามบริบท):

  • FVL (DNA หรือ APC resistance 2nd-gen ผิดปกติค่อย genotype)
  • Prothrombin G20210A (molecular)
  • Antithrombin activity
  • Protein C activity
  • Free Protein S level
  • Antiphospholipid antibodies/LA: แนะนำใน adolescent ที่ unprovoked/recurrent หรือมีโรคภูมิคุ้มกันร่วม; สำคัญหากจะใช้ DOAC (APS มักเลือก warfarin)

ไม่แนะนำตรวจรูทีน: Homocysteine/MTHFR, Factor VIII, Lipoprotein(a), PAI-1 level/4G5G (ขาดแนวปฏิบัติชัดเจน/ผลไม่เปลี่ยนการรักษา)


Timing & การตีความผล

  • ควรตรวจ หลังพ้นระยะเฉียบพลัน และ off anticoagulation จะดีที่สุด
  • DNA tests ทำได้ทุกเวลา
  • ผล functional/ระดับโปรตีน “เพี้ยน” ได้จาก thrombosis/การติดเชื้อ/มะเร็ง/ยาต้านการแข็งตัว ถ้าผิดปกติให้ ทดสอบซ้ำ เมื่อเหมาะสม
  • เด็กเล็กมี developmental hemostasis: ค่าปกติของ Protein C/S/AT ต่ำกว่าและเปลี่ยนตามวัย ตีความด้วย sex/age-specific range และมักต้อง retest ช่วงวัยรุ่น
  • หากจำเป็นต้องรู้ผล APS เพื่อเลือกยา ให้ตรวจ ตั้งแต่ต้น (เพราะกระทบการเลือก DOAC vs warfarin)

Stroke ในเด็ก

  • Perinatal/neonatal stroke: โดยมาก ไม่ แนะนำตรวจ IT
  • Arterial ischemic stroke (ทารก/เด็กนอกช่วง neonatal): แนะนำ hypercoagulable workup (ยกเว้น SCD ซึ่งกลไกต่างออกไป)
  • Sickle cell disease: ไม่แนะนำ thrombophilia testing เพื่ออธิบาย stroke

เด็ก “ไม่มีอาการ” แต่มีประวัติครอบครัวแรง (VTE first-degree <40y หรือทราบ IT ในครอบครัว)

  • ตัดสินใจเป็นรายกรณี หลัง counseling เรื่องข้อดี-ข้อเสีย (จริยธรรมการตรวจยีนในเด็ก)
  • เหมาะตรวจ หากมี risk เพิ่ม (ต้องรับ CVC/ผ่าตัด/มะเร็ง/immobilization) หรือ วัยรุ่นหญิง ที่ใช้/พิจารณา เอสโตรเจนคุมกำเนิด
  • ชุดตรวจจำกัด เฉพาะ 5 รายการหลัก (FVL, Prothrombin, AT, Protein C, Free Protein S)
  • ผลบวก ไม่ใช่ข้อบ่งชี้ให้ anticoagulation ระยะยาว ในเด็กสุขภาพดี แต่ให้แผน prophylaxis เฉพาะเหตุการณ์เสี่ยง, ให้ความรู้สังเกตอาการ และวางแผนคุมกำเนิด/ตั้งครรภ์ในอนาคต

 

Pearls & Pitfalls

  • เด็กส่วนใหญ่ที่มี VTE มี provoking factors ชัดเจน—การตรวจ IT มัก ไม่เปลี่ยนการดูแลเฉียบพลัน
  • Unprovoked VTE/Recurrence มีเหตุผลมากสุดในการส่งตรวจ
  • ระวัง ผลบวกลวง/ลบลวง จากอายุ ยา ภาวะอักเสบ ติดเชื้อ มะเร็ง; ยืนยันซ้ำ เมื่อพ้นเหตุ
  • หลีกเลี่ยง MTHFR/homocysteine ใน panel ตามปกติ
  • การตัดสินใจระยะเวลารักษา ให้ยึด provoked vs unprovoked + risk-benefit รายบุคคล; หลักฐานแนวทางยังไม่ยืนยันให้ยืดทุกรายที่มี IT
  • สื่อสารจุดมุ่งหมายการตรวจกับครอบครัวก่อนเสมอ เพื่อลดความกังวล/ความคาดหวังผิด

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น