วันอังคารที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

History of Aeromedical Transport

History of Aeromedical Transport (ประวัติการขนย้ายผู้ป่วยทางการบิน)

1. จุดเริ่มต้นของการบินและการแพทย์ทางอากาศ (Early Beginnings)

  • แนวคิดการบินเริ่มจากตำนาน (Icarus, Chinese Emperor Shun) มาสู่ความจริงเมื่อปี 1783 (Montgolfier balloon)
  • 1903: Wright Brothers บินเครื่องบินหนักกว่าอากาศสำเร็จ เป็นจุดเริ่มต้นยุคการบินสมัยใหม่
  • การใช้เครื่องบินกับผู้ป่วยเริ่มถูกคิดในสงคราม แม้ช่วง Franco-Prussian War (1870) จะไม่มีหลักฐานว่าเคยขนย้ายผู้บาดเจ็บจริง

2. จุดเริ่มต้นของ Aeromedical Transport ที่มีหลักฐานชัดเจน

ปี / ช่วงเวลา

เหตุการณ์สำคัญ

1914–1918 (WWI)

มีการขนส่งผู้บาดเจ็บครั้งแรกด้วยเครื่องบิน (Serbian soldiers ใน French aircraft)

1916–1917

Dr. Chassaing พัฒนาเครื่องบินดัดแปลงใส่เตียงนอนได้ 2 เตียง ใช้อพยพผู้บาดเจ็บจาก Amiens

1917

British Army บินผู้บาดเจ็บในตุรกี ลดเวลาขนส่งจาก 3 วันเหลือ 45 นาที

1928

Reverend John Flynn จัดตั้ง Aerial Medical Service – Australia (ต่อมาคือ Royal Flying Doctor Service) เป็นระบบแพทย์ทางอากาศพลเรือนที่จัดตั้งอย่างเป็นทางการแห่งแรกของโลก


3. พัฒนาการยุคสงคราม (Military Aeromedical Evolution)

ระหว่าง WWI – WWII Cold War

  • การขนส่งผู้บาดเจ็บด้วย Fixed-wing airplane เริ่มมีระบบมากขึ้น
  • WWII: มีการตั้งหน่วย Medical Air Ambulance Squadron และฝึก Flight Nurses
  • เครื่องบิน C-47 และ C-54 ใช้ขนส่งทหารบาดเจ็บจำนวนมากกว่า 1 ล้านนายกลับสหรัฐฯ
  • เกิดการขยายระบบ CASEVAC MEDEVAC

4. Helicopter Era – จุดเปลี่ยนของ Aeromedical Transport

สงคราม

บทบาทของเฮลิคอปเตอร์ทางการแพทย์

WWII ช่วงท้าย

ใช้เฮลิคอปเตอร์ครั้งแรกช่วยทหารบาดเจ็บในพม่า (Burma) 1944–1945

Korean War

ใช้ Bell 47 / Sikorsky S-51 ลำเลียงผู้บาดเจ็บจากแนวหน้า MASH units

Vietnam War

จุดเปลี่ยนชัดที่สุด – Operation Dustoff, Helicopter “Huey” (UH-1) ขนย้าย >400,000 ราย แนวคิด “Scoop and Run”

ผลลัพธ์: ลดอัตราการเสียชีวิตจากบาดเจ็บในสนามรบอย่างมีนัยสำคัญ


5. Civilian Aeromedical Systems (ยุคพลเรือน)

  • 1950s: การถ่ายทอดข่าวสงครามผ่านทีวีทำให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของ Helicopter EMS
  • 1951: การช่วยชีวิตบนยอดโบสถ์ St. John’s Cathedral ในนิวยอร์ก เป็นเหตุการณ์พลเรือนครั้งแรกที่โด่งดัง
  • 1952: Swiss Regaหน่วยช่วยชีวิตทางอากาศพลเรือนยุโรปแห่งแรก
  • 1963–1969: เกิดระบบ HELP (USA) และ Maryland State Police Medevac
  • 1970s: เยอรมนีจัดตั้ง ADAC เครือข่าย HEMS ระดับประเทศ
  • 1972: Saint Anthony Hospital (เดนเวอร์) ก่อตั้ง Flight for Life — Hospital-based HEMS แห่งแรก
  • 1980s: HEMS ขยายทั่วโลก เพิ่มบทบาททาง Neonatal, Cardiac, Obstetric, Interhospital transfer

6. Fixed-wing Aeromedical Transport (เครื่องบิน)

  • เติบโตคู่กับการท่องเที่ยวและประกันสุขภาพระหว่างประเทศ
  • ใช้สำหรับ long-distance transport / repatriation / ICU-to-ICU transfer
  • มีบริษัทเฉพาะด้าน เช่น air ambulance services, travel insurance medical assistance
  • ใช้เครื่องบิน Jet เช่น Learjet, Gulfstream ดัดแปลงติด ICU equipment, ventilator, monitor

7. สรุป Key Concepts 

ประเด็น

ความสำคัญ

Casevac vs Medevac

Casevac = ไม่มีทีมแพทย์/อุปกรณ์ครบ / Medevac = มีระบบการแพทย์เต็มรูปแบบบนอากาศ

Helicopter

เหมาะระยะสั้น-เข้าถึงพื้นที่ยาก (scene to hospital)

Fixed-wing

เหมาะระยะไกล ข้ามประเทศ / ICU transfer

Flight Nurse / Flight Physician

เริ่มตั้งแต่ WWII และพัฒนาจนเป็นสาขาเฉพาะของ Critical Care Transport

Scoop and Run

ลด prehospital time ลด morbidity/mortality โดยเฉพาะ trauma


ประวัติศาสตร์การขนย้ายผู้ป่วยทางอากาศในประเทศไทย (Thailand Aeromedical Transport)

ยุคกำเนิด (ทหารเป็นเจ้าภาพหลัก)

  • หลังสงครามโลกและความทันสมัยของกองทัพอากาศไทย (กอ.ทอ.) การลำเลียงผู้ป่วย/บาดเจ็บโดยอากาศยานเริ่มต้นในบริบท “ทหาร” มากว่า 60 ปี (ระบุในงานวิจัยสรุปภาพรวม) โดยเฉพาะเครื่องบินลำเลียงแบบ C-130H ของกองบิน 6/ฝูงบิน 601 ที่ถูกใช้ในภารกิจช่วยเหลือภัยพิบัติและติดตั้งเปล/โมดูลเวชกรรมบินได้ตามภารกิจสนับสนุนพลเรือน (Thai Science)

ยุคเอกชนเริ่มให้บริการ HEMS/FW Air Ambulance

  • พ.ศ. 2550 (2007): BDMS Sky ICU เปิดให้บริการ HEMS เชิงเอกชนรายแรกของไทย โดยบริษัท Bangkok Helicopter Services (BHS) ร่วมกับเครือ รพ.กรุงเทพ ใช้เฮลิคอปเตอร์ EC145 ปฏิบัติการ 24/7 (VFR/IFR) ครอบคลุมไทยและภูมิภาค เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Thai Science)
  • เครือ BDMS และผู้ให้บริการไทย เช่น MJets พัฒนาเครือข่าย fixed-wing air ambulance (bed-to-bed, ICU transport/ECMO transport) และได้รับการรับรอง/ยกระดับมาตรฐานสากลต่อเนื่อง (เช่น EURAMI ในบางบริการ) (Bangkok Hospital)

ยุค Public HEMS / Thai Sky Doctor (สพฉ.)

  • กฎหมายกำกับ EMS สมัยใหม่เริ่มชัดเจนหลัง พ.ร.บ.การแพทย์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2551 และหมายเลขฉุกเฉิน 1669 (ศูนย์นเรนทร) เป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของระบบก่อนเกิด Thai Sky Doctor (Thai Science)
  • พ.ศ. 2552–2553 เป็นต้นมา: สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.)/NIEMS ริเริ่ม “Thai Sky Doctor (TSDS)” ในพื้นที่ทุรกันดาร (นำร่อง แม่ฮ่องสอน) ด้วยนโยบายบูรณาการข้ามหน่วยงาน (สธ., สปสช., กห. – ทบ./ทอ./ทร., ตร., ทส., เกษตรฯ, เอกชน เช่น BDMS และ Kan Air) ผ่าน MOU เพื่อให้คนไข้อาการวิกฤตเข้าถึงการส่งต่อเร็วขึ้น ผลการศึกษาแรก ๆ สรุปภาพรวม 2010–2015: มีคำขอ 205 ภารกิจ ขนย้ายจริง 184 ราย ปัจจัยจำกัดคืออากาศ/อากาศยานไม่พร้อม ฯลฯ (Thai Science)
  • ต่อมา สพฉ.ขยายการฝึกอบรมบุคลากร Basic HEMS Course และประกาศเดินหน้านโยบาย Sky Doctor ทั่วประเทศ (ข่าวปี 2566) (niems.go.th)

เหตุการณ์/บทเรียนเด่นในพื้นที่ไทย

  • เฮลิคอปเตอร์การแพทย์ของเอกชน (BHS/“Sky ICU”) มีบทบาททั้ง HEMS และสนับสนุนบรรเทาสาธารณภัย (เช่น บินส่งเวชภัณฑ์/อพยพผู้ป่วยช่วงน้ำท่วมใหญ่) สื่ออุตสาหกรรมเฮลิคอปเตอร์ระบุว่าบริการ EMS เฮลิคอปเตอร์ที่ติดตั้งครบในไทยเริ่มต้นจริงจังตั้งแต่ปี 2007 และถูกใช้งานต่อเนื่องในภารกิจสาธารณภัยระดับภูมิภาคด้วย (verticalmag.com)
  • ด้าน “การลำเลียงไกลระยะทาง” (inter-facility, cross-border) ผู้ให้บริการ fixed-wing ไทย (เช่น MJets) และโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำในกรุงเทพฯ รับบทหลักในการ repatriation/ICU-to-ICU ภูมิภาคเอเชีย (MJets)

โครงสร้างสถาบันและโมเดลการปฏิบัติ

  • โมเดลทหาร: ทอ./ทบ./ตร. สนับสนุนอากาศยาน (C-130H, ฮ.หลากแบบ) และลูกเรือ/ช่างอากาศยาน—บูรณาการกับแพทย์–พยาบาลจากโรงพยาบาลทหารและเครือข่าย EMS จังหวัด เมื่อมีเหตุภัยพิบัติ/ฉุกเฉินพิเศษ (เช่น เคลื่อนย้ายผู้ป่วยวิกฤต, ลำเลียงอวัยวะ, mass casualty) (www.thairath.co.th)
  • โมเดลเอกชน (HEMS/FW): เครือ BDMS (BHS/“Sky ICU”) และผู้ให้บริการอากาศยานธุรกิจ (เช่น MJets) ให้บริการเชิงการค้า/ประกันภัย ครอบคลุม HEMS, commercial medical escort, fixed-wing ICU (รวมเคลื่อนย้าย ECMO ในบางภารกิจ) (Thai Science)
  • โมเดลสาธารณะ (Thai Sky Doctor): ขับเคลื่อนโดย สพฉ. ใช้เฮลิคอปเตอร์/เครื่องบินของรัฐและพันธมิตรเอกชนตาม MOU, ศูนย์สั่งการ 1669 คัดกรองความเร่งด่วนและเลือกวิธีลำเลียง (primary/secondary missions) โดยมีเกณฑ์ข้อบ่งชี้และมาตรฐานความปลอดภัยการบิน/เวชปฏิบัติร่วมกัน (Thai Science)

หมุดหมายสมัยใหม่

  • การพัฒนามาตรฐาน/หลักสูตร: สพฉ.จัด Basic HEMS Course สร้างกำลังคนเฉพาะทางทั่วประเทศ; มีการสื่อสาร/ประชุมวิชาการต่อเนื่อง (เช่น International HEMS Conference 2025 ในไทย) สะท้อนการยกระดับบทบาท HEMS เชิงระบบ (niems.go.th)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น