Operational Aspects of Aeromedical Transport
🛫 1. ประเภทของภารกิจ
(Mission Profiles)
ภารกิจในการลำเลียงผู้ป่วยทางอากาศแบ่งได้เป็น 4
ประเภทหลัก
ซึ่งมีลักษณะทางการแพทย์และการเตรียมการแตกต่างกันชัดเจน:
|
ระดับ |
ความหมาย |
ตัวอย่าง |
|
Primary (Scene flight) |
รับผู้ป่วยจากที่เกิดเหตุโดยตรง |
EMS รถชน, สนามอุบัติเหตุ |
|
Secondary |
รับจากโรงพยาบาลชุมชน
→ ส่งต่อศูนย์ใหญ่ |
ผู้ป่วยได้รับการทำ ABC
แล้ว แต่ยังไม่ definitive care |
|
Tertiary |
รับผู้ป่วยในโรงพยาบาลหนึ่งไปอีกโรงพยาบาลเพื่อ
definitive treatment |
เช่น ส่งไปผ่าตัด cardiac
surgery |
|
Quaternary (Repatriation) |
รับผู้ป่วยข้ามประเทศ/ส่งกลับภูมิลำเนา |
Medical evacuation ต่างประเทศ |
🚁 2. อากาศยานที่ใช้จริงในไทย
(HEMS/MEDEVAC)
2.1 เฮลิคอปเตอร์ในภาคเอกชน/โรงพยาบาล
- Airbus
EC145 / H145 (BHS/BDMS)
- Airbus
H135 (บางภารกิจ EMS/ฝึก/สนับสนุน)
2.2 เฮลิคอปเตอร์หน่วยงานรัฐ (สนับสนุน SAR/MEDEVAC/ภารกิจพิเศษ)
- Bell
412EP / 412EPI (กองบินตำรวจ/หน่วยงานรัฐ
ใช้ในค้นหา-กู้ภัย/ลำเลียงผู้ป่วย)
- Leonardo
AW139 (กองทัพบกไทย – ภารกิจลำเลียง/สารพัดประโยชน์ รองรับ MEDEVAC)
2.3 Fixed-wing
“Medical Jet / MJet” (Air Ambulance)
- MJETS
(MJets Co., Ltd.) – Air Ambulance
- Hawker
800/800XP/850XP, Citation Bravo, Citation X, King Air 350 และ
ATR 72-500
ตารางสรุป “ตัวอย่าง” สมรรถนะ & ห้องโดยสาร (ใช้บ่อยในไทย)
|
รุ่น |
บทบาทหลักในไทย |
พิสัยอ้างอิง |
ความเร็ว /สูงสุด |
ห้องโดยสาร
(ประมาณ) |
จุดเด่น EMS |
|
Airbus H145 |
HEMS (BDMS/BHS) |
~442 NM (operational BDMS); ~609
km spec |
~240–259 km/h |
~ยาว 2.4 m ×
กว้าง 1.35 m × สูง 0.90 m; ห้องโล่ง continuous |
ยกเปลข้าง/ท้าย,
พื้นที่ทำหัตถการรอบตัวผู้ป่วย, twin-engine |
|
Airbus EC145 |
HEMS (BHS เดิม) |
ใกล้เคียง H145 |
~ |
ปริมาตร ~6.0
m³ (ใหญ่กว่า BK117 เดิม) |
ประตูบานกว้าง,
เข้าถึงผู้ป่วยดี |
|
Airbus H135 |
EMS/ฝึก |
~342 NM |
~127–140 kt |
ภายใน ~2.0 ×
1.0 × 1.0 m (ขึ้นกับชุดติดตั้ง) |
น้ำหนักเบา, ประหยัด, เข้า LZ คับแคบ |
|
Bell 412EP/412EPI |
SAR/MEDEVAC หน่วยงานรัฐ |
ดูคู่มือผู้ผลิต |
~ |
ประตูสไลด์ 7’7”
สองฝั่ง (เข้า-ออกเปลง่าย) |
บรรทุกมาก, ทนทาน |
|
AW139 |
ลำเลียง/MEDEVAC
(ทบ.) |
~ |
~ |
ห้องโดยสาร ~8
m³; ยาว ~2.70 m × กว้าง ~2.10 m |
รองรับ 2 เปล + ทีมแพทย์หลายคน; ประตูใหญ่ |
|
Citation Bravo (MJETS/BDMS) |
Air Ambulance ระยะกลาง |
1,744 NM |
~390–402 kt |
Light jet; 1 เปล +
ญาติ 2 ที่ |
จุดต่อท่อออกซิเจน,
LIFE PORT, ประหยัด, ใช้สนามสั้นได้ |
|
Hawker 800/800XP/850XP |
Air Ambulance ระยะกลาง-ไกล |
~2,390 NM (ตัวอย่าง
800) |
~ |
ห้องกว้าง (mid-size) |
เหมาะเคสหนัก/ยาว |
|
ATR 72-500 (คอนฟิก
Air Ambulance) |
เคลื่อนย้ายหลายเปล/โหลดหนัก |
~825 NM |
~ |
2 เปล, ประตูบรรทุกใหญ่, โหลดเครื่องมือพิเศษ |
เหมาะ mass/ECMO/Incubator |
📡 3. ระบบสื่อสารและศูนย์สั่งการ
(Communications Center)
บทนี้เน้นว่าระบบสื่อสารเป็นหัวใจของ aeromedical
mission ที่ปลอดภัย:
- ต้องสามารถติดต่อได้ตลอดเวลา (continuous communication) ระหว่างฐาน, นักบิน, EMS ภาคพื้น,
ATC, โรงพยาบาลปลายทาง
- เจ้าหน้าที่สื่อสาร (dispatcher) ต้องสามารถ triage
สายเรียก, ประสาน flight crew, ส่งคำสั่งแพทย์ และติดตามตำแหน่งเครื่องบิน (flight
following)
- ต้องมี แผนฉุกเฉินหลังเกิดอุบัติเหตุ (post-accident
incident plan) เช่น เมื่อไม่สามารถติดต่อเครื่องบิน,
ลงจอดฉุกเฉิน เป็นต้น
⚠ 4. โครงสร้างการปฏิบัติการ
(SOPs) & ความปลอดภัย — ประยุกต์ใช้ในไทย
4.1 สภาพแวดล้อมการบินการแพทย์ & ความเสี่ยง
ภารกิจ HEMS ต้องจัด LZ
ในพื้นที่ไม่คุ้น, มักเกิดช่วงพลบค่ำ/กลางคืน,
มีสิ่งรบกวน (สื่อ/คนดู/หน่วยงานอื่น)
และอุบัติเหตุจำนวนมากเกิดในช่วง take-off/departure (เช่น
ชนสายไฟ/ต้นไม้). ภาคพื้นมีความเสี่ยง rotor strike/เศษวัสดุปลิวจาก
rotor wash/โดน pitot tube ร้อน-บาดเจ็บ/ทำให้เครื่องมือเสียหาย;
จึงต้องฝึกคนพื้นที่/ทีมร่วมและเข้มงวดเรื่องความปลอดภัย.
Safety Program: ใช้หลัก Haddon’s
matrix ครอบคลุมก่อนเกิด-ขณะเกิด-หลังเกิดอุบัติเหตุ โดยคำนึงถึง
“นักบิน/ลูกเรือ–อากาศยาน–ภูมิประเทศ/อากาศ–องค์กร” และมีกลไก flight
following, อัปเดตอากาศ, IFR status, และ acceptance
protocol ที่ชัดเจน.
SOP สำคัญ (ตัวอย่าง):
การขนส่งผู้ป่วยก้าวร้าว/พาครอบครัวขึ้นบิน/โหลด-อันโหลดขณะโรเตอร์หมุน/ใช้ LZ
ไม่กำหนด/HAZMAT/คุมฝูงชน/หลายหน่วยตอบเหตุเดียวกัน/ป้องกันการรบกวนการบิน
ฯลฯ.
4.2 Landing Zone (LZ) – เกณฑ์ภาคสนามไทย
- LZ อย่างน้อย ~20 × 20 m (กลางวัน) และ ~30
× 30 m (กลางคืน; ติดไฟมุม + flare
upwind), พื้นเรียบ, ไร้สายไฟ/เสา/ต้นไม้/รถ/คน/สัตว์;
ทีมภาคพื้นเข้าใกล้ได้เมื่อ “ลูกเรือชี้นำเท่านั้น”
(ห้ามจากด้านท้ายเสมอ). ก่อนยกตัวต้องตรวจเส้นทางบินออก.
- บุคลากรควรใส่เสื้อสะท้อนแสง, ควบคุมฝูงชน,
สื่อสารชัดเจนตาม SOP.
4.3 นักบิน ลูกเรือ
เวรเปลี่ยน–ความล้า–การตัดสินใจ
บทเรียนจากอุบัติเหตุ EMS เฮลิคอปเตอร์ระบุปัญหาแรงกดดันรับบินในสภาพอากาศชายขอบ/การฝึก
IFR ไม่พอ/การยืดชั่วโมงเวรบิน; แนวโน้มคือเสริมอิสระนักบินในการ
“รับ/ปฏิเสธ” ภารกิจ, พัฒนาการฝึก IFR, เพิ่มข้อมูลอากาศ และอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยบนเครื่อง.
5) โครงสร้างระบบและเวิร์กโฟลว์ (ไทย)
1.
Activation & Triage (Desk/Dispatch ศูนย์) — รวมสัญญาณเหตุจาก 1669/โรงพยาบาล/ต่างประเทศ → ประเมิน ground vs air, ระยะทาง, น้ำหนัก/ขนาดผู้ป่วย-อุปกรณ์, สภาพอากาศ/สนามบิน/ทางขึ้น-ลงภูมิประเทศ,
ความเร่งด่วน (primary vs secondary/tertiary). อ้างอิงนิยามภารกิจ primary/secondary/tertiary/quaternary สำหรับจัดแบบอากาศยานและทีม.
2.
Asset Matching — ภารกิจภายใน
~250 km รอบศูนย์เมืองใหญ่ → HEMS; เกินนั้น/ข้ามประเทศ → Fixed-wing (Citation/Hawker/ATR72)
3.
Crew Configuration — อย่างน้อย
Flight Doctor + Flight Nurse (เพิ่ม RT/Perfusionist
เมื่อมี ECMO/Incubator/vent ชนิดพิเศษ) และใน
fixed-wing มี 2 นักบินเป็นมาตรฐานความปลอดภัย.
(แนวคิดลูกเรือ/การฝึกอยู่ในบท operational ของตำรา).
4.
Comms & Flight Following — ช่องสื่อสารซ้อนชั้น (ATC, Ops, EMS ground, รับ-ส่ง
LZ/hospital pad), บันทึกตำแหน่ง/เวลา, สภาพอากาศ และบันทึกการตัดสินใจ (acceptance protocol).
5.
Clinical Standards On-Board — เปลมาตรฐาน+ระบบตรึง, O₂ เสถียร,
power 220/110VAC/อินเวอร์เตอร์, suction, ventilator,
defib, drug box (cold-chain), point-of-care; ติดตั้งให้เข้าถึงผู้ป่วย
360°. (อ้างอิงชุด EMS ของ H145/EC145
ซึ่งออกแบบให้ทำหัตถการในอากาศได้สะดวก)
6.
Handover & Documentation — เวชระเบียนระบุเวลา “ตาม time zone ต้นทาง”
ตลอดภารกิจ (ลดสับสนข้ามโซนเวลา); แจ้งทีมปลายทางให้ปรับตาม time
zone ใหม่ในวงเล็บ. (แนวคิดมาจากบทว่าด้วยการเดินทางยาว/ข้ามเวลาในตำราเดียวกัน).
6) การวางแผนภารกิจในไทย:
สภาพอากาศ/ภูมิประเทศ/ฤดูกาล
- Monsoon
& Convective WX: พิจารณาฤดูฝน (พ.ค.–ต.ค.)
กับพายุฤดูร้อน, Cumulonimbus ตอนบ่าย/เย็น; ต้องมีแผน diversion (สนามบิน/helipad สำรอง), และขอบเขต VFR/IFR ของเครื่อง/นักบิน.
- Terrain
& Wires: พื้นที่ภูเขาภาคเหนือ/ภาคตะวันตก
และเสาไฟ/สายสื่อสารในพื้นที่ชุมชนเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญใน LZ — ให้ถือ SOP LZ ตามคู่มือ (ขนาด, การเข้าหา, คุมฝูงชน).
- Night
Ops/NVG: ปฏิบัติได้ถ้าเครื่อง/นักบิน/องค์กรมีมาตรฐานและ SOP
รองรับ flight following/lighting/LZ marking ที่เพียงพอ (เพิ่มขนาด LZ กลางคืน).
7) ข้อควรระวังทางนโยบาย/กฎหมาย/มาตรฐาน
- Single-pilot
Operations: ตำราระบุความเสี่ยงในภารกิจ aeromedical
(แรงกดดันเวลา/อากาศชายขอบ/ยืดชั่วโมง) จึงตั้งคำถามกับการบิน single-pilot
ยกเว้นระยะสั้นมาก — ในไทยควรยึด 2 นักบินเป็นมาตรฐานสำหรับ
fixed-wing/ภารกิจยาว.
- ความร่วมมือข้ามองค์กร: มาตรการร่วม เช่น
ป้องกัน “shopping around” หลังถูกปฏิเสธเพราะอากาศ,
ช่วยเหลือ flight following และ SAR
ร่วม.
- เอกสาร/สื่อสาร: ต้องบันทึกเวลาตามพื้นที่
(และใส่วงเล็บเวลา UTC/ปลายทางเมื่อส่งมอบ)
เพื่อลดความสับสน.
|
เช็กลิสต์ภารกิจ (ย่อ) 1. Go/No-Go: สภาพอากาศ/ทางเลือก/น้ำหนักบรรทุก/เชื้อเพลิง/IFR
status/crew duty time (ตาม acceptance protocol). 2. LZ/Pad: ขนาด, ไฟมุม, flare upwind, ตรวจ hazard 360°, คุมฝูงชน, briefing ทีมภาคพื้น. 3. Cabin/Equipment: เปล/strap,
power, O₂, suction, vent/monitor/defib/ยา, ยึดอุปกรณ์ให้ crashworthy. 4. Comms: ATC/Ops/EMS ground/LZ; flight
following; รายงาน ETA/สถานะผู้ป่วยเป็นระยะ.
5. Handover: SBAR + เวลาตาม time
zone ต้นทาง (ใส่วงเล็บปลายทาง), ลายเซ็น/รับมอบ.
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น