วันพฤหัสบดีที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

Operational Aspects of Aeromedical Transport

 Operational Aspects of Aeromedical Transport


🛫 1. ประเภทของภารกิจ (Mission Profiles)

ภารกิจในการลำเลียงผู้ป่วยทางอากาศแบ่งได้เป็น 4 ประเภทหลัก ซึ่งมีลักษณะทางการแพทย์และการเตรียมการแตกต่างกันชัดเจน:

ระดับ

ความหมาย

ตัวอย่าง

Primary (Scene flight)

รับผู้ป่วยจากที่เกิดเหตุโดยตรง

EMS รถชน, สนามอุบัติเหตุ

Secondary

รับจากโรงพยาบาลชุมชน ส่งต่อศูนย์ใหญ่

ผู้ป่วยได้รับการทำ ABC แล้ว แต่ยังไม่ definitive care

Tertiary

รับผู้ป่วยในโรงพยาบาลหนึ่งไปอีกโรงพยาบาลเพื่อ definitive treatment

เช่น ส่งไปผ่าตัด cardiac surgery

Quaternary (Repatriation)

รับผู้ป่วยข้ามประเทศ/ส่งกลับภูมิลำเนา

Medical evacuation ต่างประเทศ


🚁 2. อากาศยานที่ใช้จริงในไทย (HEMS/MEDEVAC)

2.1 เฮลิคอปเตอร์ในภาคเอกชน/โรงพยาบาล

  • Airbus EC145 / H145 (BHS/BDMS)
  • Airbus H135 (บางภารกิจ EMS/ฝึก/สนับสนุน)

2.2 เฮลิคอปเตอร์หน่วยงานรัฐ (สนับสนุน SAR/MEDEVAC/ภารกิจพิเศษ)

  • Bell 412EP / 412EPI (กองบินตำรวจ/หน่วยงานรัฐ ใช้ในค้นหา-กู้ภัย/ลำเลียงผู้ป่วย)
  • Leonardo AW139 (กองทัพบกไทย – ภารกิจลำเลียง/สารพัดประโยชน์ รองรับ MEDEVAC)

2.3    Fixed-wing “Medical Jet / MJet” (Air Ambulance)

  • MJETS (MJets Co., Ltd.) – Air Ambulance
  • Hawker 800/800XP/850XP, Citation Bravo, Citation X, King Air 350 และ ATR 72-500

 

ตารางสรุป “ตัวอย่าง” สมรรถนะ & ห้องโดยสาร (ใช้บ่อยในไทย)

รุ่น

บทบาทหลักในไทย

พิสัยอ้างอิง

ความเร็ว /สูงสุด

ห้องโดยสาร (ประมาณ)

จุดเด่น EMS

Airbus H145

HEMS (BDMS/BHS)

~442 NM (operational BDMS); ~609 km spec

~240–259 km/h

~ยาว 2.4 m × กว้าง 1.35 m × สูง 0.90 m; ห้องโล่ง continuous

ยกเปลข้าง/ท้าย, พื้นที่ทำหัตถการรอบตัวผู้ป่วย, twin-engine

Airbus EC145

HEMS (BHS เดิม)

ใกล้เคียง H145

~

ปริมาตร ~6.0 m³ (ใหญ่กว่า BK117 เดิม)

ประตูบานกว้าง, เข้าถึงผู้ป่วยดี

Airbus H135

EMS/ฝึก

~342 NM

~127–140 kt

ภายใน ~2.0 × 1.0 × 1.0 m (ขึ้นกับชุดติดตั้ง)

น้ำหนักเบา, ประหยัด, เข้า LZ คับแคบ

Bell 412EP/412EPI

SAR/MEDEVAC หน่วยงานรัฐ

ดูคู่มือผู้ผลิต

~

ประตูสไลด์ 7’7” สองฝั่ง (เข้า-ออกเปลง่าย)

บรรทุกมาก, ทนทาน

AW139

ลำเลียง/MEDEVAC (ทบ.)

~

~

ห้องโดยสาร ~8 m³; ยาว ~2.70 m × กว้าง ~2.10 m

รองรับ 2 เปล + ทีมแพทย์หลายคน; ประตูใหญ่

Citation Bravo (MJETS/BDMS)

Air Ambulance ระยะกลาง

1,744 NM

~390–402 kt

Light jet; 1 เปล + ญาติ 2 ที่

จุดต่อท่อออกซิเจน, LIFE PORT, ประหยัด, ใช้สนามสั้นได้

Hawker 800/800XP/850XP

Air Ambulance ระยะกลาง-ไกล

~2,390 NM (ตัวอย่าง 800)

~

ห้องกว้าง (mid-size)

เหมาะเคสหนัก/ยาว

ATR 72-500 (คอนฟิก Air Ambulance)

เคลื่อนย้ายหลายเปล/โหลดหนัก

~825 NM

~

2 เปล, ประตูบรรทุกใหญ่, โหลดเครื่องมือพิเศษ

เหมาะ mass/ECMO/Incubator

 


📡 3. ระบบสื่อสารและศูนย์สั่งการ (Communications Center)

บทนี้เน้นว่าระบบสื่อสารเป็นหัวใจของ aeromedical mission ที่ปลอดภัย:

  • ต้องสามารถติดต่อได้ตลอดเวลา (continuous communication) ระหว่างฐาน, นักบิน, EMS ภาคพื้น, ATC, โรงพยาบาลปลายทาง
  • เจ้าหน้าที่สื่อสาร (dispatcher) ต้องสามารถ triage สายเรียก, ประสาน flight crew, ส่งคำสั่งแพทย์ และติดตามตำแหน่งเครื่องบิน (flight following)
  • ต้องมี แผนฉุกเฉินหลังเกิดอุบัติเหตุ (post-accident incident plan) เช่น เมื่อไม่สามารถติดต่อเครื่องบิน, ลงจอดฉุกเฉิน เป็นต้น

4. โครงสร้างการปฏิบัติการ (SOPs) & ความปลอดภัย — ประยุกต์ใช้ในไทย

4.1 สภาพแวดล้อมการบินการแพทย์ & ความเสี่ยง

ภารกิจ HEMS ต้องจัด LZ ในพื้นที่ไม่คุ้น, มักเกิดช่วงพลบค่ำ/กลางคืน, มีสิ่งรบกวน (สื่อ/คนดู/หน่วยงานอื่น) และอุบัติเหตุจำนวนมากเกิดในช่วง take-off/departure (เช่น ชนสายไฟ/ต้นไม้). ภาคพื้นมีความเสี่ยง rotor strike/เศษวัสดุปลิวจาก rotor wash/โดน pitot tube ร้อน-บาดเจ็บ/ทำให้เครื่องมือเสียหาย; จึงต้องฝึกคนพื้นที่/ทีมร่วมและเข้มงวดเรื่องความปลอดภัย.

Safety Program: ใช้หลัก Haddon’s matrix ครอบคลุมก่อนเกิด-ขณะเกิด-หลังเกิดอุบัติเหตุ โดยคำนึงถึง “นักบิน/ลูกเรือ–อากาศยาน–ภูมิประเทศ/อากาศ–องค์กร” และมีกลไก flight following, อัปเดตอากาศ, IFR status, และ acceptance protocol ที่ชัดเจน.

SOP สำคัญ (ตัวอย่าง): การขนส่งผู้ป่วยก้าวร้าว/พาครอบครัวขึ้นบิน/โหลด-อันโหลดขณะโรเตอร์หมุน/ใช้ LZ ไม่กำหนด/HAZMAT/คุมฝูงชน/หลายหน่วยตอบเหตุเดียวกัน/ป้องกันการรบกวนการบิน ฯลฯ.

 

4.2 Landing Zone (LZ) – เกณฑ์ภาคสนามไทย

  • LZ อย่างน้อย ~20 × 20 m (กลางวัน) และ ~30 × 30 m (กลางคืน; ติดไฟมุม + flare upwind), พื้นเรียบ, ไร้สายไฟ/เสา/ต้นไม้/รถ/คน/สัตว์; ทีมภาคพื้นเข้าใกล้ได้เมื่อ “ลูกเรือชี้นำเท่านั้น” (ห้ามจากด้านท้ายเสมอ). ก่อนยกตัวต้องตรวจเส้นทางบินออก.
  • บุคลากรควรใส่เสื้อสะท้อนแสง, ควบคุมฝูงชน, สื่อสารชัดเจนตาม SOP.

 

4.3 นักบิน ลูกเรือ เวรเปลี่ยน–ความล้า–การตัดสินใจ

บทเรียนจากอุบัติเหตุ EMS เฮลิคอปเตอร์ระบุปัญหาแรงกดดันรับบินในสภาพอากาศชายขอบ/การฝึก IFR ไม่พอ/การยืดชั่วโมงเวรบิน; แนวโน้มคือเสริมอิสระนักบินในการ “รับ/ปฏิเสธ” ภารกิจ, พัฒนาการฝึก IFR, เพิ่มข้อมูลอากาศ และอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยบนเครื่อง.


5) โครงสร้างระบบและเวิร์กโฟลว์ (ไทย)

1.       Activation & Triage (Desk/Dispatch ศูนย์)รวมสัญญาณเหตุจาก 1669/โรงพยาบาล/ต่างประเทศ ประเมิน ground vs air, ระยะทาง, น้ำหนัก/ขนาดผู้ป่วย-อุปกรณ์, สภาพอากาศ/สนามบิน/ทางขึ้น-ลงภูมิประเทศ, ความเร่งด่วน (primary vs secondary/tertiary). อ้างอิงนิยามภารกิจ primary/secondary/tertiary/quaternary สำหรับจัดแบบอากาศยานและทีม.

2.       Asset Matchingภารกิจภายใน ~250 km รอบศูนย์เมืองใหญ่ HEMS; เกินนั้น/ข้ามประเทศ Fixed-wing (Citation/Hawker/ATR72)

3.       Crew Configurationอย่างน้อย Flight Doctor + Flight Nurse (เพิ่ม RT/Perfusionist เมื่อมี ECMO/Incubator/vent ชนิดพิเศษ) และใน fixed-wing มี 2 นักบินเป็นมาตรฐานความปลอดภัย. (แนวคิดลูกเรือ/การฝึกอยู่ในบท operational ของตำรา).

4.       Comms & Flight Followingช่องสื่อสารซ้อนชั้น (ATC, Ops, EMS ground, รับ-ส่ง LZ/hospital pad), บันทึกตำแหน่ง/เวลา, สภาพอากาศ และบันทึกการตัดสินใจ (acceptance protocol).

5.       Clinical Standards On-Boardเปลมาตรฐาน+ระบบตรึง, O เสถียร, power 220/110VAC/อินเวอร์เตอร์, suction, ventilator, defib, drug box (cold-chain), point-of-care; ติดตั้งให้เข้าถึงผู้ป่วย 360°. (อ้างอิงชุด EMS ของ H145/EC145 ซึ่งออกแบบให้ทำหัตถการในอากาศได้สะดวก)

6.       Handover & Documentationเวชระเบียนระบุเวลา “ตาม time zone ต้นทาง” ตลอดภารกิจ (ลดสับสนข้ามโซนเวลา); แจ้งทีมปลายทางให้ปรับตาม time zone ใหม่ในวงเล็บ. (แนวคิดมาจากบทว่าด้วยการเดินทางยาว/ข้ามเวลาในตำราเดียวกัน).


6) การวางแผนภารกิจในไทย: สภาพอากาศ/ภูมิประเทศ/ฤดูกาล

  • Monsoon & Convective WX: พิจารณาฤดูฝน (พ.ค.–ต.ค.) กับพายุฤดูร้อน, Cumulonimbus ตอนบ่าย/เย็น; ต้องมีแผน diversion (สนามบิน/helipad สำรอง), และขอบเขต VFR/IFR ของเครื่อง/นักบิน.
  • Terrain & Wires: พื้นที่ภูเขาภาคเหนือ/ภาคตะวันตก และเสาไฟ/สายสื่อสารในพื้นที่ชุมชนเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญใน LZ — ให้ถือ SOP LZ ตามคู่มือ (ขนาด, การเข้าหา, คุมฝูงชน).
  • Night Ops/NVG: ปฏิบัติได้ถ้าเครื่อง/นักบิน/องค์กรมีมาตรฐานและ SOP รองรับ flight following/lighting/LZ marking ที่เพียงพอ (เพิ่มขนาด LZ กลางคืน).

7) ข้อควรระวังทางนโยบาย/กฎหมาย/มาตรฐาน

  • Single-pilot Operations: ตำราระบุความเสี่ยงในภารกิจ aeromedical (แรงกดดันเวลา/อากาศชายขอบ/ยืดชั่วโมง) จึงตั้งคำถามกับการบิน single-pilot ยกเว้นระยะสั้นมาก — ในไทยควรยึด 2 นักบินเป็นมาตรฐานสำหรับ fixed-wing/ภารกิจยาว.
  • ความร่วมมือข้ามองค์กร: มาตรการร่วม เช่น ป้องกัน “shopping around” หลังถูกปฏิเสธเพราะอากาศ, ช่วยเหลือ flight following และ SAR ร่วม.
  • เอกสาร/สื่อสาร: ต้องบันทึกเวลาตามพื้นที่ (และใส่วงเล็บเวลา UTC/ปลายทางเมื่อส่งมอบ) เพื่อลดความสับสน.

เช็กลิสต์ภารกิจ (ย่อ)

1.       Go/No-Go: สภาพอากาศ/ทางเลือก/น้ำหนักบรรทุก/เชื้อเพลิง/IFR status/crew duty time (ตาม acceptance protocol).

2.       LZ/Pad: ขนาด, ไฟมุม, flare upwind, ตรวจ hazard 360°, คุมฝูงชน, briefing ทีมภาคพื้น.

3.       Cabin/Equipment: เปล/strap, power, O, suction, vent/monitor/defib/ยา, ยึดอุปกรณ์ให้ crashworthy.

4.       Comms: ATC/Ops/EMS ground/LZ; flight following; รายงาน ETA/สถานะผู้ป่วยเป็นระยะ.

5.       Handover: SBAR + เวลาตาม time zone ต้นทาง (ใส่วงเล็บปลายทาง), ลายเซ็น/รับมอบ.


 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น