วันอังคารที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2568

Ketosis-Prone Diabetes (KPD)

Ketosis-Prone Diabetes (KPD)

1) คืออะไร / ใครควรนึกถึง

  • ผู้ป่วยมาด้วย DKA แต่ ไม่ตรง type 1 autoimmune แบบคลาสสิก (อายุโต/อ้วน/มี metabolic syndrome/ชาติพันธุ์หลากหลาย)
  • ชื่อเดิม: Flatbush diabetes, type 1B, “ketosis-prone type 2”
  • บางกลุ่ม หยุดอินซูลินได้ หลังพ้นระยะเฉียบพลัน

2) ระบบจำแนกที่ใช้ได้จริง (ทำนายการพึ่งอินซูลินดีที่สุด)

Aβ system (แนะนำที่สุด: sensitivity ~99%, specificity ~96% สำหรับ insulin dependence ที่ 12 เดือน)

  • A+β−: มี autoAb, β-cell reserve ไม่มี เหมือน T1D คลาสสิก ต้องอินซูลินถาวร
  • A+β+: มี autoAb, β-cell reserve มี course แปรผัน ~ครึ่งหนึ่งหยุดอินซูลินได้ช่วงแรก แต่เสี่ยงเสื่อมใน 2 ปีแรก
  • A−β−: ไม่มี autoAb, β-cell reserve ไม่มี อินซูลินถาวร (อาจมีพันธุกรรม/โมโนเจนิก)
  • A−β+: ไม่มี autoAb, β-cell reserve มี คล้าย T2D; กลุ่มใหญ่สุด (~50%); ส่วนหนึ่ง “unprovoked” DKA (ไม่มีปัจจัยกระตุ้นชัด) มักชายเด่น

ตัวชี้วัด β-cell reserve (หลัง DKA หาย 1–3 สัปดาห์): Fasting C-peptide 1 ng/mL หรือ peak post-glucagon 1.5 ng/mL = β+
ตัวทำนายหยุดอินซูลินใน β+: Fasting C-peptide (nmol/L) : Glucose (mmol/L) > 11 (ที่ ~6 เดือน) ดีมาก


3) พยาธิสรีรวิทยา (ภาพรวมสั้น)

  • A+β− vs A+β+: ทั้งคู่มี autoimmunity แต่ A+β+ มักมี epitope บางแบบ (เช่น GAD65–DPD) และ biomarker บ่ง ongoing islet inflammation พร้อม reserve ยังพอ
  • A−β−: β-cell ล้มเหลวโดยไม่มี autoAb; พบ family history สูง/ตัวแปรยีนพัฒนาเบต้าเซลล์ (เช่น HNF1A, PAX4, PDX1) บางราย
  • A−β+: β-cell ด้อยการทำงานแบบ reversible บางส่วน; มีเมตาบอลิซึมผิดปกติ (BCAA/arginine), oxidative stress; ช่วงวิกฤตเหมือน T1D แต่ระยะคงตัวต่างกัน

4) Natural history ที่สำคัญต่อแผนรักษา

  • β− (A+β−, A−β−) อินซูลินถาวร
  • A+β+ ~50% หยุดอินซูลินได้ช่วงต้น แต่ครึ่งหนึ่งจะเสื่อมเป็น β− ภายใน ~2 ปี ติดตามใกล้ชิด
  • A−β+
    • Unprovoked: ชายเด่น, มีโอกาส remission / insulin independence สูงกว่า และคงอยู่ยาวกว่า
    • Provoked (ติดเชื้อ/ไม่กินยา/เครียดเฉียบพลัน): เสื่อม β-cell เร็วกว่า ต้องอินซูลินนานกว่า
    • มีโอกาส relapse เป็น ๆ หาย ๆ; การเพิ่มขึ้นของ C-peptide ปีแรกไม่มาก เสี่ยงกลับมาใช้อินซูลินเร็ว

5) เวิร์กโฟลว์การดูแล (Clinician-ready)

ช่วงเฉียบพลัน (ทุกราย)

  • รักษา DKA ตามมาตรฐาน (สารน้ำ/อินซูลินต่อเนื่อง/แก้อิเล็กโตรไลต์/หาสาเหตุ)
  • จำหน่าย: ทุกคนออกจาก รพ. พร้อม basal-bolus (มี 24-ชั่วโมง coverage)

นัดประเมิน 1–3 สัปดาห์หลังพ้น DKA

1.       C-peptide (fasting ± glucagon stimulation) ระบุ β+ หรือ β−

2.       Islet autoAb: GAD65, IA-2, ZnT8 ระบุ A+ หรือ A

o   (ถ้าทำได้) HLA เพิ่มพยากรณ์ใน A+β+

3.       จัดกลุ่ม β± แล้ววางแผนถอนอินซูลิน/ติดตาม

2–10 สัปดาห์แรกหลังจำหน่าย (insulin taper protocol สำหรับ β+)

  • คง MDI/Basal-bolus ตามความต้องการ 2 วันท้ายก่อนจำหน่าย (หรือ 0.6–0.8 U/kg/วัน แบ่ง basal : bolus = 50:50)
  • เช็ก CBG ก่อนอาหาร+ก่อนนอน ทุกวัน
  • ถ้า ค่ากลูโคสเข้าเป้า ADA (Fasting/Pre 80–130, Peak/HS 180) ต่อเนื่อง 2 สัปดาห์ ลดอินซูลิน 50% แล้วนัด 1 สัปดาห์
  • ถ้าขึ้นสูง + มีคีโตน ระหว่างลด กลับไปเพิ่มอินซูลิน และ งดถอนต่อ
  • ถ้าควบคุมดี 2_visit ติดกัน หยุดอินซูลิน และติดตามใกล้ชิด
  • ถ้าน้ำตาลสูงแต่ไร้คีโตน เริ่ม ยากิน

เลือกยาหลังถอนอินซูลิน (หลัก ๆ สำหรับ A−β+)

  • Metformin (insulin-sensitizing) = first-line (กลุ่มนี้เมตาบอลิกซินโดรมสูง)
  • DPP-4 inhibitor (เช่น sitagliptin) มีข้อมูลช่วย ยืดระยะ remission; ใช้เดี่ยว/ร่วม metformin ได้
  • พิจารณา SU/TZD/GLP-1 RA/α-GI หากยังไม่ถึงเป้าหลัง 8 สัปดาห์
  • หลีกเลี่ยง SGLT2 inhibitor (เสี่ยงกระตุ้น DKA)

ห้ามถอนอินซูลิน ใน β− ไม่ว่า A+/A และอย่าพยายาม taper ซ้ำ ๆ หากมี ketosis ขณะลด


6) ประเด็นปฏิบัติสำคัญ / Pearls

  • ทุกเคส DKA เริ่มจากสมมติว่า “ต้องใช้อินซูลิน” จนกว่าจะประเมิน Aβ ได้หลังพ้นวิกฤต
  • Unprovoked A−β+ (ไม่มีปัจจัยกระตุ้น) โอกาส insulin-free สูงกว่า, course ดีกว่า provoked
  • เฝ้าระวัง relapse: อายุน้อย, C-peptide ปีแรกเพิ่มไม่มาก, control ไม่ดี เสี่ยงกลับสู่ ketosis
  • ถ้าทำแล็บจำกัด: ใช้ แนวทางลดอินซูลินอย่างเฝ้าระวัง + ตรวจคีโตนที่บ้าน (ต้องมีความพร้อมในการ self-monitoring)
  • สอน sick-day rules และ การตรวจคีโตน (เลือด/ปัสสาวะ) ทุกครั้งที่ BG >200 mg/dL หรือไม่สบาย

7) แพทย์ควรสั่งอะไร “ตั้งแต่วันนี้”

  • หลัง DKA: นัด 1–3 สัปดาห์ สั่ง Fasting C-peptide ± Glucagon-stim, GAD65, IA-2, ZnT8
  • วาง taper plan ถ้า β+ พร้อม ชุดตรวจคีโตน ที่บ้าน
  • ถ้าถอนอินซูลินสำเร็จใน A−β+ เริ่ม metformin (± DPP-4i) และไลฟ์สไตล์เข้มข้น; ติดตาม 1–3 เดือน
  • A+β+: แม้หยุดอินซูลินได้ช่วงต้น ติดตามถี่ใน 2 ปีแรก (เสี่ยงเสื่อม) ± พิจารณา HLA เพื่อพยากรณ์
  • β− ทุกชนิด: วาง MDI/CSII ระยะยาว + เป้าหมาย A1C + screen ภาวะแทรกซ้อนเบาหวานครบถ้วน

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น