วันอังคารที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

Immunization for Health care providers

Immunization for Health care providers


1) หลักการสำคัญ

บุคลากรสาธารณสุข (HCP) เสี่ยงติดเชื้อโรคที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีนจากผู้ป่วยและสิ่งแวดล้อมในโรงพยาบาล ต้องป้องกันด้วย:

  • มาตรการควบคุมการติดเชื้อ
    • ล้างมือ, PPE, isolation ตามข้อบ่งชี้
  • วัคซีนและภูมิคุ้มกันที่เพียงพอ ตามความเสี่ยงของงาน เช่น exposure ต่อเลือด, droplet, airborne
  • บุคลากรห้อง Lab พิเศษ ห้ามกินดื่มใน Lab, PPE เฉพาะเวลา handling เชื้อ เช่น M. tuberculosis

TB ไม่ได้ใช้วัคซีนเป็นหลัก แต่ใช้ TB screening / infection control แยกเป็นหัวข้ออื่น


2) นโยบายวัคซีนในบุคลากร

  • ควรมี นโยบายวัคซีนสำหรับบุคลากรทุกแห่ง (โรงพยาบาล, คลินิก, nursing home, EMS, โรงเรียน, Lab)
  • ตรวจและทบทวน immunization status
    • ก่อนเริ่มงาน (pre-employment)
    • ทบทวนอย่างน้อยปีละครั้ง
  • ถ้า ไม่มีหลักฐานการได้รับวัคซีน ให้ฉีด (เว้นแต่มีข้อห้าม)
    • ไม่แนะนำ serology screening เป็น routine (ยกเว้นบางโรค เช่น HepB, MMR/Varicella ตามบริบทแต่ละที่)
  • ต้องมี documentation ชัดเจนในเวชระเบียนบุคลากร

อุปสรรคหลักที่ทำให้ coverage ต่ำ

1.       บุคลากร ปฏิเสธฉีด (กลัวผลข้างเคียง, คิดว่าวัคซีนไม่ค่อยได้ผล, คิดว่าความเสี่ยงโรคต่ำ ฯลฯ)

2.       องค์กร ไม่มีนโยบายชัดเจน / บังคับใช้น้อย

การศึกษาและการจัดระบบให้เข้าถึงวัคซีนง่าย (เช่น mobile cart, on-site clinic) ช่วยเพิ่ม coverage ได้ แต่ยังมักต่ำกว่าที่ควร


3) วัคซีน “หลัก” ที่บุคลากรควรมี

3.1 COVID-19 vaccine

  • แนะนำให้ บุคลากรทุกคน ได้รับวัคซีนและ booster ตามเกณฑ์อายุ/ระยะห่าง เว้นแต่มี contraindication (เช่น แพ้ส่วนประกอบวัคซีน)
  • ลด risk ติดเชื้อ, ลด absenteeism, ลดโอกาสนำเชื้อสู่ผู้ป่วย

3.2 Hepatitis B vaccine (HBV)

เหตุผล

  • HBV แพร่ง่ายกว่า HCV และ HIV
  • เสี่ยงสูงจาก needlestick แต่ก็อาจติดจาก mucosal exposure หรือสิ่งแวดล้อม/เครื่องมือปนเปื้อน
  • กฎหมาย OSHA (US) บังคับให้นายจ้างจัดหา HepB vaccine ฟรีสำหรับผู้ที่เสี่ยงสัมผัสเลือด/สารคัดหลั่ง

แนวทาง

  • บุคลากรที่เสี่ยงสัมผัสเลือด/เข็ม ต้องได้รับ HepB vaccine ครบ series
  • ใช้ recombinant HepB แบบ conventional (Engerix-B, Recombivax HB) หรือ CpG-adjuvanted (Heplisav-B) ตาม schedule ที่กำหนด

การตรวจ anti-HBs หลังฉีดครบ

  • ตรวจ anti-HBs quantitative หลังฉีดครบ series 1–2 เดือน
    • 10 mIU/mL = responder ไม่ต้อง booster ในคนภูมิปกติ ถึงแม้ titer จะ drop ในอนาคตก็ยังป้องกันโรคและ chronic infection ได้
    • <10 mIU/mL ให้ “challenge doseหรือเริ่ม series ชุดที่ 2 (แนะนำใช้ HepB-CpG ถ้ามี เพราะตอบสนองดีกว่าใน nonresponder)
  • ถ้ายัง <10 mIU/mL หลังครบ 2 series ถือเป็น vaccine nonresponder
    • ต้องได้ HBIG เมื่อ post-exposure ตาม guideline
    • ควรตรวจ HBsAg + anti-HBc เพื่อ exclude ว่าติดเชื้อมาก่อน

3.3 Influenza vaccine

  • Influenza ระบาด nosocomial ได้ทั้งจากผู้ป่วยสู่บุคลากรและจากบุคลากรสู่ผู้ป่วย
  • ทำให้เกิดการลาป่วย, disrupt การให้บริการ และใน nursing home ทำให้ morbidity/mortality สูง
  • การฉีดวัคซีนบุคลากรช่วยลดทั้ง อุบัติการณ์ influenza ใน staff และ ผลลัพธ์ในผู้ป่วย

แนวทาง

  • ฉีดประจำปี ให้บุคลากรทุกคน โดยเฉพาะผู้ดูแล high-risk patients
  • ควรฉีด ก่อนปลายเดือนตุลาคม (หรือก่อนเข้าฤดูระบาดในบริบทไทย)
  • ใช้ inactivated quadrivalent influenza vaccine (IIV4) เป็นหลัก
    • High-dose IIV ในอายุมากกว่า 65 ปี
  • LAIV (intranasal live): ใช้ได้ในคนอายุน้อยที่แข็งแรง/ไม่ตั้งครรภ์
    • แต่ ไม่แนะนำ สำหรับผู้ที่ดูแลผู้ป่วยที่ severely immunocompromised และถ้าได้รับ LAIV ควรเลี่ยง contact กับกลุ่มนี้ 7 วัน

3.4 Measles–Mumps–Rubella (MMR)

  • บุคลากรเสี่ยงต่อ measles, mumps, rubella สูงกว่าประชากรทั่วไปหลายเท่า
  • โรคแพร่ได้แบบ droplet/airborne ก่อนมีอาการชัด และมีรายงาน outbreak nosocomial หลายครั้ง

แนวทาง

  • บุคลากรทุกคนควรมี หลักฐานภูมิคุ้มกัน MMR
    • หลักฐานยอมรับได้ เช่น:
      • เอกสารวัคซีนครบตามเกณฑ์ (2 เข็มสำหรับ measles/mumps ในผู้ใหญ่)
      • หรือ laboratory evidence ของ immunity / เคยเป็นโรค
  • คนเกิดก่อน 1957 ส่วนใหญ่ถือว่ามีภูมิ แต่ในบุคลากรยังพบ susceptible ได้ 4–9% (measles) ใน setting ที่ risk สูง/มี outbreak อาจพิจารณาวัคซีนเพิ่ม
  • ปัจจุบันมี MMR: M-M-R II และ PRIORIX ใช้แทนกันได้ แต่ควรใช้ชนิดเดียวกันให้ครบ series ถ้าทำได้

3.5 Pertussis – Tdap

  • Pertussis ติดต่อสูงมาก (secondary attack rate >80% ใน household)
  • ปัจจุบันเคสส่วนใหญ่อยู่ในวัยผู้ใหญ่ เสี่ยงแพร่ให้ทารก/เด็กเล็ก
  • Coverage Tdap ในผู้ใหญ่ต่ำมาก

แนวทาง

  • แนะนำให้บุคลากรทุกคน (รวมถึง 65 ปี) ได้รับ Tdap 1 dose ในชีวิตผู้ใหญ่
  • ให้โดย ไม่ต้องสนใจระยะเวลาตั้งแต่ Td ครั้งล่าสุด
  • หลังจากนั้นให้ Td หรือ Tdap booster ทุก 10 ปี ตาม adult schedule
  • แม้ได้รับ Tdap แล้ว ถ้าสัมผัสผู้ป่วย pertussis ยังต้องพิจารณา post-exposure prophylaxis ตาม guideline

3.6 Varicella (Chickenpox)

  • Varicella ในผู้ใหญ่มี complication รุนแรง และเสี่ยงแพร่ให้ผู้ป่วย/บุคลากรอื่น
  • แพร่ได้ทั้งจาก primary varicella และ zoster ผ่าน droplet/airborne

แนวทาง

  • บุคลากรที่ ไม่มีหลักฐานภูมิ ต่อ VZV ควรได้รับ varicella vaccine 2 เข็ม เว้นแต่มี contraindication
  • ประเมิน susceptibility ได้จากประวัติ, serology ตามแนวทาง facility
  • ไม่ต้องตรวจ serology หลังฉีด เพราะ commercial assay sensitivity ไม่ดีพอ (แต่ข้อมูลจาก gpELISA แสดงว่าผู้ใหญ่เกือบทั้งหมด seroconvert)

4) วัคซีนที่ “อาจ” จำเป็นเฉพาะกลุ่ม/สถานการณ์

4.1 BCG vaccine

  • ไม่แนะนำเป็น routine สำหรับบุคลากร เพราะ
    • efficacy ไม่แน่นอน
    • รบกวนการอ่าน TST
  • พิจารณาได้เฉพาะ setting ที่
    • มี MDR-TB / XDR-TB สูง, risk transmission สูง, และ
    • ทำ infection control ครบถ้วนแล้วแต่ยังคุมไม่ได้
  • ห้ามใช้ในผู้มีภาวะภูมิบกพร่อง

4.2 Ebola vaccine

  • ใช้ตามบริบท: outbreak setting, บุคลากรที่จะไปทำงานในพื้นที่เสี่ยง ฯลฯ
  • มี regimens เช่น rVSV-ZEBOV (Ervebo; single dose) หรือ Ad26.ZEBOV + MVA-BN-Filo (2 เข็มห่าง 8 สัปดาห์) ตาม guideline เฉพาะ

4.3 Hepatitis A vaccine

  • HAV มี incidence สูงในหลายพื้นที่ แต่ nosocomial outbreak น้อยถ้าควบคุม infection ดี
  • ไม่แนะนำเป็น routine occupational vaccine สำหรับบุคลากร
  • พิจารณาให้ ตาม risk ส่วนบุคคล (เช่น เดินทาง, MSM, CLD ฯลฯ)

4.4 Meningococcal vaccine

  • ไม่ใช้เป็น routine occupational vaccine สำหรับ HCP
  • ใช้เมื่อ:
    • บุคลากรมี ข้อบ่งชี้อื่น (asplenia, complement deficiency ฯลฯ)
    • เป็น lab personnel ที่ทำงานกับ N. meningitidis
    • ในสถานการณ์ outbreak หรือ contact ใกล้ชิดกับ secretions ผู้ป่วย เน้น chemoprophylaxis + vaccination ตาม serogroup

4.5 Orthopoxvirus (Smallpox / Mpox)

  • ใช้เฉพาะกลุ่มเสี่ยง (เช่น Lab, ทีมดูแลผู้ป่วยใน outbreak หรือกลุ่มเสี่ยง mpox)
  • มี MVA (non-replicating) และ ACAM2000 (replicating) เลือกใช้ตามข้อบ่งชี้

4.6 วัคซีนอื่นตาม age-based schedule

  • เช่น Td/Tdap booster, pneumococcal, HPV, zoster ฯลฯ
    ให้บุคลากรได้รับตาม standard adult schedule เหมือนประชากรทั่วไป

5) ข้อปฏิบัติในสถานพยาบาล (เชิงระบบ)

  • มี นโยบายชัดเจน ว่าบุคลากรทุกระดับต้องมี immunization อะไรบ้าง
  • มี ระบบติดตาม (EMR / occupational health system) ว่าใครครบ/ไม่ครบ
  • ทำ on-site vaccination clinic / mobile cart ใน ward เพื่อลด barrier
  • ให้ education เรื่องประสิทธิภาพ/ความปลอดภัยของวัคซีน เพื่อลด hesitancy

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น