วันจันทร์ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2568

Contraceptive Counseling

Contraceptive Counseling

1) หลักคิดสำคัญ (Key Principles)

  • เป้าหมาย ไม่ใช่แค่ป้องกัน unintended pregnancy แต่คือช่วยผู้ป่วย บรรลุ reproductive goals ตามความต้องการของตน
  • ใช้ shared decision-making:
    • ผู้ป่วย = ผู้เชี่ยวชาญเรื่อง “คุณค่า/ความต้องการของตน”
    • แพทย์ = ผู้เชี่ยวชาญด้านข้อมูลทางการแพทย์/ความปลอดภัย
  • หลีกเลี่ยง directive counseling ที่ผลักดันวิธีที่ “มีประสิทธิภาพสูงสุด” โดยไม่คำนึงถึง preference
  • ระวัง bias และประเด็น health equity (เชื้อชาติ อายุ สถานะทางสังคม ความพิการ ฯลฯ)

2) โครงสร้างการให้คำปรึกษาแบบ Step-by-step

Step 1: สร้างสัมพันธภาพ (Establish rapport)

  • Small talk / tone เป็นมิตร เพิ่ม satisfaction และ continuation
  • ใช้ภาษาที่เคารพ gender diversity

Step 2: ระบุเป้าหมายการสืบพันธุ์ (Identify reproductive goals)

คำถามที่แนะนำ:

  • วันนี้อยากคุยเรื่องการคุมกำเนิดหรือการป้องกันการตั้งครรภ์ไหม?”
  • หลีกเลี่ยงการใช้คำถามเดียวแบบ rigid (เช่น One Key Question) เป็นตัวตัดสินทั้งหมด

เสริมด้วย PATH questions

  • Pregnancy attitude – อยากมีลูกในอนาคตหรือไม่
  • Attitude toward timing – คิดว่าเมื่อไร
  • Timing – ระยะสั้น/ยาว
  • How important is prevention – สำคัญแค่ไหนที่จะป้องกันตอนนี้

Step 3: ประเมินข้อจำกัดทางการแพทย์

  • ใช้ WHO MEC / US MEC
    • Category 1–2: ใช้ได้
    • Category 3: ใช้ได้ถ้าไม่มีทางเลือกอื่นที่ “ผู้ป่วยยอมรับได้”
    • Category 4: contraindicated
  • ประเด็นสำคัญที่ต้องถามเสมอ:
    smoking, HTN, VTE, migraine with aura, cancer history, drug interactions (antiepileptics, ART)

Step 4: เปิดบทสนทนาแบบเน้น preference

คำเปิดที่แนะนำ:

  • มีอะไรที่สำคัญกับคุณเป็นพิเศษเกี่ยวกับวิธีคุมกำเนิดไหม?”

ต่างจาก “อยากใช้วิธีไหน” ซึ่งสมมติว่าผู้ป่วยรู้ตัวเลือกทั้งหมดแล้ว

รองรับสไตล์การตัดสินใจ:

  • ผู้ป่วยรู้คำตอบเอง (autonomous)
  • ผู้ป่วยอยากให้แพทย์ช่วยแนะนำ (provider-guided)
  • ผู้ป่วยลังเล shared decision-making เต็มรูปแบบ

Step 5: ดึง preference อย่างมีข้อมูล (Elicit informed preferences)

หัวข้อหลักที่ควรพูดคุย (เลือกตามบริบท ไม่จำเป็นต้องครบทุกข้อ):

  • วิธีใช้ / ความถี่ (daily vs long-acting)
  • Efficacy (ใช้ natural frequency เช่น “1–20 ใน 100 คน/ปี”)
  • ผลต่อประจำเดือน (lighter, irregular, amenorrhea)
  • ผลข้างเคียงที่กังวล (จาก social media / ประสบการณ์คนรอบตัว)
  • Non-contraceptive benefits (acne, dysmenorrhea, HMB (heavy menstrual bleeding))
  • ผลต่อ sexual experience
  • การกลับมาของ fertility
  • Privacy / การควบคุมด้วยตนเอง

Amenorrhea: อธิบายอย่างไม่ตัดสิน และแก้ misconception


Step 6: ช่วยตัดสินใจ (Facilitate decision-making)

  • สะท้อน preference map กับตัวเลือก
  • ใช้ visual aid (tiered effectiveness chart)
  • ถ้า preference ขัดกัน ชวนชั่งน้ำหนัก ไม่ตัดสินแทน
  • หลีกเลี่ยงภาษาที่แสดง bias
    ใช้คำว่า จากที่คุณเล่า วิธีเหล่านี้น่าจะเหมาะ”

Step 7: เลือกและเริ่มวิธีคุมกำเนิด

  • Same-day / Quick start เมื่อทำได้ (ตาม CDC US SPR)
  • ประเมิน:
    • ความเสี่ยงตั้งครรภ์ระยะ luteal
    • ความจำเป็นของ emergency contraception
      (Copper IUD และ LNG-IUD 52 mg ใช้เป็น EC ได้)
    • STI screening ตามข้อบ่งชี้
  • ให้คำแนะนำการใช้จริง + แผนกรณีลืม/ช้า
  • Anticipatory counseling เรื่อง side effects เพิ่ม continuation
  • ย้ำว่า switch/change ได้เสมอ ไม่ถือว่าล้มเหลว

3) ประเด็นเสริมที่ต้องไม่ลืม

  • STI prevention: แนะนำ condom + PrEP / doxy-PEP ตามความเสี่ยง
  • Special populations
    • Adolescents: เลี่ยง directive counseling
    • Postpartum: immediate postpartum contraception + lactation
    • Post-abortion: เคารพความต้องการ ไม่บังคับ counseling
    • ขอถอด IUD/implant: ต้องถอดตามคำขอ
    • Chronic disease / obesity / substance use / disability: เน้น autonomy + trauma-informed care
    • Cancer history: ระวัง estrogen, breast cancer copper IUD เป็นหลัก
    • Transmasculine individuals: gender-affirming counseling

4) Myth ที่ควรเลิกยึด

  • Unintended pregnancy ไม่พึงประสงค์เสมอ
  • Unintended pregnancy unhealthy pregnancy เสมอ
  • Efficacy ไม่ใช่ปัจจัยเดียว (ผู้ป่วยให้คุณค่ากับ ease, side effects, control, privacy มาก)

5) Take-home messages สำหรับแพทย์

  • เปลี่ยนบทบาทจาก “ผู้บอกวิธีที่ดีที่สุด” “ผู้ช่วยให้เลือกวิธีที่เหมาะกับเขาที่สุด”
  • Shared decision-making = เครื่องมือสำคัญด้าน คุณภาพการดูแล + ความเท่าเทียม
  • ความสำเร็จของการคุมกำเนิด = ความพึงพอใจ + การใช้ต่อเนื่อง ไม่ใช่แค่ efficacy สูงสุด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น