Henipaviruses (Nipah / Hendra / Langya)
จุดสำคัญที่สุด (Key takeaways)
- เชื้อ: ไวรัส RNA ในตระกูล
Paramyxoviridae สกุล Henipavirus
(Nipah, Hendra; Langya เป็นชนิดใหม่กว่า)
- รังโรคหลัก: ค้างคาวผลไม้สกุล Pteropus;
มี spillover สู่สัตว์กลาง (เช่น
สุกร ม้า) แล้วสู่คน หรือ คนสู่คน (ชัดเจนใน Nipah
สายเอเชียใต้)
- พยาธิสภาพเด่น: ไวรัสสมองอักเสบ และ/หรือ
ระบบหายใจรุนแรง; อัตราตายสูงมาก (Nipah 30–90%
ตามเหตุการณ์, Hendra ในคนพบไม่บ่อยแต่รุนแรง)
- การรักษา: ประคับประคอง/ICU
เป็นหลัก; ยังไม่มียาต้านไวรัสที่พิสูจน์ผลแน่ชัด
(ribavirin หลักฐานจำกัด), มีกลยุทธ์ทดลอง
(favipiravir สัตว์ทดลอง, m102.4 monoclonal, วัคซีน mRNA ระยะต้น)
- ควบคุมการติดเชื้อ: มาตรฐาน + contact
+ droplet; พิจารณา airborne เมื่อทำหัตถการก่อ
aerosol/มีปอดอักเสบรุนแรง; ลดสัมผัสสารคัดหลั่ง/ซากสัตว์;
หลีกเลี่ยง น้ำยางอินทผลัมสด (date palm sap) ในพื้นที่เสี่ยง
Nipah virus (NiV)
ระบาดวิทยา & การแพร่เชื้อ
- พบครั้งแรกมาเลเซีย/สิงคโปร์ 1998–1999 (สุกรเป็นสัตว์กลาง);
ต่อมา บังกลาเทศ/อินเดีย (West Bengal,
Kerala) และฟิลิปปินส์
- รังโรค: ค้างคาว Pteropus (เช่น P. medius, P. hypomelanus); สัตว์กลาง: สุกร, ม้า (บางเหตุการณ์)
- เส้นทางสู่คน:
- ค้างคาว→คน: สัมผัสค้างคาว/มูล-ปัสสาวะ/ดื่มน้ำยางอินทผลัมสด
ปนเปื้อน
- ค้างคาว→สัตว์กลาง→คน: โดยสารคัดหลั่งทางหายใจ/ปัสสาวะสัตว์
- คน→คน: พบเด่นในบังกลาเทศ/อินเดีย; เสี่ยงเพิ่มเมื่อผู้ป่วย มีหายใจลำบาก/ไอมาก, สัมผัสสารคัดหลั่งนาน/ใกล้ชิด, ผู้สูงอายุ
อาการทางคลินิก
- ฟักตัว ~7–40 วัน → ไข้ ปวดศีรษะ
ปวดเมื่อย คลื่นไส้ อาเจียน ± ไอ หายใจลำบาก
- ลุกลามเร็วใน ~60%: ซึมลง/โคม่าใน 5–7 วัน, ชัก (~20%), กล้ามเนื้อกระตุกเป็นช่วง
(segmental myoclonus), อาการก้านสมองบ่งพยากรณ์แย่
- รูปแบบปอดเด่น พบมากในบังกลาเทศ/เกรละ
(ปอดอักเสบ, ภาวะหัวใจมีส่วนเกี่ยวข้องได้)
- Relapsing/late-onset
encephalitis พบได้ (สัปดาห์–เดือนหลังหาย)
ตรวจทางห้องปฏิบัติการ/ภาพถ่าย
- CBC มักปกติหรือเกล็ดต่ำเล็กน้อย; LFT สูงเล็ก–ปานกลาง
- CSF:
lymphocyte เด่น, โปรตีนสูง,
glucose ปกติ
- MRI
สมอง: รอยโรคจุดเล็ก <5 มม. กระจาย white matter (microinfarcts); ไม่จำเพาะ
- EEG:
diffuse slowing ± periodic bitemporal sharp waves
การวินิจฉัย
- ยืนยันโดย PCR (swab คอ/จมูก, เลือด, ปัสสาวะ, CSF, เนื้อเยื่อ)
หรือ serology
- ELISA
IgM/IgG ใช้คัดกรอง; neutralization assay เป็น confirmatory (ต้อง BSL-4; มีวิธี pseudotype ช่วยลดความเสี่ยง)
การรักษา
- ประคับประคองเข้มข้น: เฝ้าระวังทางเดินหายใจ/หัตถการช่วยหายใจเมื่อซึมลง;
จัดการ ICP/ชัก
- ยาต้านไวรัส:
- Ribavirin:
ข้อมูลสัตว์ไม่สนับสนุน; มนุษย์มีรายงานย้อนหลัง/กลุ่มเล็ก
“อาจลดตาย” แต่ ยังไม่ชัดเจน
- Favipiravir:
มีผลดีในแฮมสเตอร์ (ก่อนคลินิก)
- โมโนโคลนอล m102.4: ระยะ I ความปลอดภัยดี; ทดลองใช้ในผู้เสี่ยงสูงไม่พบว่ามีเหตุไม่พึงประสงค์รุนแรง
(หลักฐานประสิทธิผลทางคลินิกยังจำกัด)
- วัคซีน mRNA-1215: ระยะ I (กำลังประเมินความปลอดภัย/ภูมิคุ้มกัน)
การป้องกัน/ควบคุม
- ชุมชน: หลีกเลี่ยง date palm sap สด,
ปิดกันอ่างรองยางอินทผลัมจากค้างคาว, ให้ความรู้เรื่องค้างคาว/สัตว์ป่วย
- สาธารณสุข: เฝ้าระวังผู้สัมผัสใกล้ชิด > 21 วัน; แยกผู้ป่วย ห้องเดี่ยว, PPE
ครบ; จำกัดหัตถการก่อ aerosol
- หน่วยรักษา: มาตรฐาน + contact + droplet; airborne
เมื่อสงสัย aerosol/ปอดรุนแรง/ทำ AGP
Hendra virus (HeV)
ระบาดวิทยา & การแพร่เชื้อ
- ออสเตรเลียตั้งแต่ 1994; ติดม้าเป็นหลัก → คน ผ่านม้า; พบสุนัขติดได้เมื่อใกล้ชิดม้าป่วย
- ยังไม่พบคนสู่คน ชัดเจน
- รังโรค: Pteropus spp. (ค้างคาวผลไม้)
อาการ/การดำเนินโรค
- ในคนรายงานน้อย (7 ราย, เสียชีวิต
4): ไข้-ทางเดินหายใจเฉียบพลัน, บางราย
meningoencephalitis และเกิด recrudescence
ชัก/โคม่า ภายหลัง
การวินิจฉัย/รักษา
- ELISA/neutralization/PCR
- รักษา ประคับประคอง; ribavirin ในสัตว์ไม่เป็นผล
การป้องกัน
- วัคซีนม้า (G-glycoprotein) ใช้ในออสเตรเลียตั้งแต่
2012 → ฉีดมากกว่า 120,000 ตัว
ไม่มีเคสที่ยืนยันติดเชื้อหลังวัคซีน
- เวชปฏิบัติ: หลีกเลี่ยงสัมผัสสารคัดหลั่งม้า/ซาก; PPE เต็มรูปแบบเมื่อดูแลม้าป่วย/ชันสูตร
Langya henipavirus (LayV)
- รายงานผู้ป่วยเฉียบพลัน 35 ราย ในจีนตะวันออกเฉียงเหนือ (2019–2021)
- อาการ: ไข้ อ่อนเพลีย ไอ ปวดกล้าม คลื่นไส้ ฯลฯ; แลบ: เกล็ดต่ำ เม็ดเลือดขาวต่ำ ผิดปกติ LFT/ไต
- แหล่งสัตว์เด่น: หนูผี (shrews); ยังไม่พบหลักฐานคนสู่คน ที่ชัดเจน
Algorithm สั้นๆ สำหรับแพทย์เวร
1.
สงสัย Henipavirus เมื่อ:
o สมองอักเสบรุนแรง/ปอดอักเสบ + ประวัติสัมผัส สุกร/ม้า/ค้างคาว/น้ำยางอินทผลัมสด
หรือ คลัสเตอร์ครอบครัว/บุคลากรทางการแพทย์
2.
แยกโรคทันที + แจ้งควบคุมโรค
3.
ส่ง PCR (ทางเดินหายใจ/เลือด/ปัสสาวะ/CSF), ELISA IgM/IgG; เจาะ CSF เมื่อปลอดภัย
4.
จัดการ A–B–C, ชัก, ICP, ARDS ตามมาตรฐาน;
หลีกเลี่ยง AGP ไม่จำเป็น
5.
พิจารณาหารือผู้เชี่ยวชาญ/สาธารณสุขเรื่องการใช้
ribavirin (กรณีจำกัดหลักฐาน) หรือการเข้าถึง
การรักษาเชิงทดลอง
6.
ติดตามผู้สัมผัส ใกล้ชิด 21 วัน
(วัดไข้/อาการทางระบบประสาท-หายใจทุกวัน)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น