วันพฤหัสบดีที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2568

Hepatocellular Carcinoma (HCC)

Hepatocellular Carcinoma (HCC)


ระบาดวิทยา/ปัจจัยเสี่ยง/การป้องกัน

ภาพรวมระบาดวิทยา

  • มะเร็งตับ/ท่อน้ำดีในตับเป็นมะเร็งพบบ่อยอันดับต้นของโลก; ~75% คือ HCC; อัตรารอดชีวิต 5 ปีราว ~22%
  • ปี 2020: ~900,000 รายใหม่ และ ~830,000 เสียชีวิตทั่วโลก; อัตราตายในสหรัฐฯเริ่มคงที่/ลดลงจากการตรวจพบระยะแรกมากขึ้น
  • การกระจายภูมิศาสตร์: เอเชียสูงสุด (~72% ของเคส); มองโกเลียอุบัติการณ์สูงสุด, จีนจำนวนผู้ป่วยมากสุด
  • เพศ/เชื้อชาติ: ชายมากกว่าหญิง (~3:1); ในสหรัฐฯชาวเอเชีย-แปซิฟิกสูงสุดเมื่อเทียบเชื้อชาติอื่น
  • ปัจจัย “ปีเกิด”: กลุ่มเกิด 1945–1965 เสี่ยงสูงจาก HCV (สหรัฐฯ)

ปัจจัยเสี่ยงหลัก

  • ตับแข็ง: พบใน >80% ของ HCC; ทุกสาเหตุของตับแข็งเพิ่มความเสี่ยง (อุบัติการณ์เฉลี่ย ~2%/ปี)
  • HBV: เสี่ยง HCC ได้แม้ไม่มีตับแข็ง; เสี่ยงเพิ่มเมื่อ HBV DNA สูง, HBeAg+, HBsAg >1000 IU/mL (inactive HBV), genotype C, เพศชาย, coinfection (HCV/HDV)
  • HCV: HCC แทบทั้งหมดเกิดในผู้มี พังผืดขั้นสูง/ตับแข็ง (1–4%/ปีหลังเกิดตับแข็ง); เสี่ยงเพิ่มเมื่อมี coinfection, ดื่มแอลกอฮอล์, DM/อ้วน
  • HDV (ร่วม HBV): เพิ่มความเสี่ยง HCC ชัดเจน
  • พิษสิ่งแวดล้อม: aflatoxin B1 (พบบ่อยในบางประเทศแอฟริกา/เอเชีย), น้ำดื่มปนเปื้อน microcystin, เคี้ยวหมาก, เหล็กเกินจากการถ่ายเลือดระยะยาว
  • พฤติกรรม/อาหาร: แอลกอฮอล์ (เดี่ยว/เสริมกับปัจจัยอื่น), บุหรี่, เครื่องดื่มน้ำตาลสูง (เช่น soft drink/fruit drink บางชนิด)
  • เมตาบอลิก: MASLD/MASH (โดยเฉพาะมีตับแข็ง: ~1–2%/ปี), เบาหวาน, โรคอ้วน
  • พันธุกรรม/โรคหายาก: Hereditary hemochromatosis (C282Y homozygote), Alpha-1 antitrypsin deficiency, Acute intermittent porphyria, Porphyria cutanea tarda (มักมีโรคตับร่วม)

ปัจจัยป้องกัน/ลดความเสี่ยง

  • วัคซีน HBV: ป้องกันการติดเชื้อ จึงลด HCC ที่เกี่ยวกับ HBV
  • ยาต้านไวรัส
    • HBV: interferon หรือ nucleos(t)ide ลดเสี่ยง ~50–60% แต่ ไม่เป็นศูนย์
    • HCV: ได้ SVR (ทั้ง DAA/IFN) ลดเสี่ยงอย่างมีนัยสำคัญ แต่ผู้มีตับแข็งยังคงต้อง คัดกรองต่อเนื่อง
  • ยา/อาหารเสริมเมตาบอลิซึม (หลักฐานเชิงสังเกต)
    • Statin: สัมพันธ์กับความเสี่ยงลดลง (อคติการคัดเลือกเป็นไปได้)
    • Aspirin/NSAIDs: เสี่ยง HCC และตายจากโรคตับลดลง แต่ พิจารณาเลือดออกทาง GI
    • Metformin (DM) และ GLP-1 RA: สัมพันธ์กับความเสี่ยง HCC ต่ำลง
  • ไลฟ์สไตล์: กาแฟสม่ำเสมอ, อาหารเนื้อขาว/ปลา/โอเมกา-3/ผัก, วิตามิน E ในบางการศึกษา, ออกกำลังกายสม่ำเสมอ; ใน NASH อ้วน bariatric surgery ลดภาวะแทรกซ้อนรวม HCC

ประเด็นเวชปฏิบัติ

  • ใครควรคัดกรอง HCC: ตับแข็งทุกราย (ไม่ว่าจากสาเหตุใด), HBV ความเสี่ยงสูง (เช่น ชายเอเชียอายุ >40, ชาวแอฟริกาบางกลุ่ม, ประวัติครอบครัว HCC, HBV DNA สูง แม้ไม่มีตับแข็ง), MASH cirrhosis, HCV ที่ได้ SVR แต่ยังมีตับแข็ง
  • จัดการปัจจัยแก้ไขได้: ควบคุมแอลกอฮอล์/บุหรี่/น้ำหนัก/เบาหวาน, ลดเครื่องดื่มน้ำตาลสูง, พิจารณา statin/aspirin เฉพาะรายตามข้อบ่งชี้หัวใจและความเสี่ยงเลือดออก
  • แม้รักษาไวรัสได้ผลดี ความเสี่ยงไม่เป็นศูนย์ อย่าหยุด surveillance หากยังมีปัจจัยเสี่ยง (โดยเฉพาะตับแข็ง)

 

Key takeaways: HCC เกิดส่วนใหญ่บนพื้นตับแข็งหรือ HBV; MASLD/MASH, DM, อ้วน และพิษสิ่งแวดล้อมกำลังเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญ; วัคซีน HBV/ยาต้านไวรัสลดความเสี่ยงแต่ไม่ตัดทิ้ง; ปรับพฤติกรรมและควบคุมเมตาบอลิกช่วยลดความเสี่ยง; คัดกรองต่อเนื่องในกลุ่มเสี่ยงสูง เป็นหัวใจของการลดการตาย.


อาการทางคลินิกและการวินิจฉัย

ไฮไลต์สำคัญ

  • HCC มักเกิดบนพื้นตับเรื้อรัง/ตับแข็ง (ในตะวันตกพบตับแข็ง ~90% ของเคส) และมักเงียบในระยะแรก พลาดโอกาสรักษา
  • เป้าหมายการวินิจฉัย: พบก้อน 2 ซม. เพื่อเปิดทางเลือกการรักษาครบถ้วน (รอดชีวิต 5 ปี >70% หากพบระยะแรกและรักษา)

รูปแบบอาการ

  • ไม่มีอาการ พบบ่อย (โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในโปรแกรม surveillance)
  • มีอาการ: ปวดชายโครงขวา/แน่นท้องบน น้ำหนักลด อิ่มเร็ว คลำได้นิ่วตับ
  • ภาวะพารานีโอพลาสติก (พบน้อย แต่มักพยากรณ์แย่ ยกเว้น erythrocytosis):
    • น้ำตาลต่ำ (บางส่วนจาก IGF-II) | Erythrocytosis (EPO) | แคลเซียมสูง (PTHrP) | ถ่ายเหลว refractory ± ผิดปกติอิเล็กโทรไลต์ | ผื่น/ผิวหนังบางชนิด
  • การนำเสนออื่น: แตกในช่องท้อง (ปวดท้องเฉียบพลัน/ช็อก), ดีซ่านอุดกั้น, ไข้จากเนโครซิส, ฝีตับ (หายาก)
  • แพร่กระจายนอกตับ (~10–15% เมื่อไม่ได้เฝ้าระวัง): ปอด > ต่อมน้ำเหลืองช่องท้อง > กระดูก > ต่อมหมวกไต (สมองพบได้น้อย)

ซีรัมมาร์คเกอร์

  • AFP: cutoff ใช้งานบ่อย 10–20 ng/mL (ไว ~60% จำเพาะ ~80% ในโรคตับเรื้อรัง) ไม่ใช้เดี่ยวๆ เป็นการคัดกรองหรือวินิจฉัย
  • AFP >400–1000 ng/mL ชี้นำมากในผู้เสี่ยงสูง/ภาพถ่ายสงสัย แต่ early HCC จำนวนมาก AFP ปกติ
  • มาร์คเกอร์เสริม (DCP/PIVKA-II, AFP-L3, คะแนน GALAD, ctDNA/miRNA) อยู่ในช่วงพัฒนา ยังไม่แทน imaging

แนวทางวินิจฉัย (ผู้เสี่ยงสูง*)

*ตับแข็งทุกสาเหตุ และ HBV บางกลุ่มความเสี่ยงสูง

  • เจอก้อนจาก US เฝ้าระวัง
    • <1 ซม.: ติดตาม US 3–6 ด. ×2; โต/ใหม่ 1 ซม. ทำ CT/MRI แบบ dynamic (หรือ CEUS ถ้ามี แต่ต้อง CT/MRI เพื่อ staging)
    • 1 ซม.: ทำ CT/MRI ตับแบบ 3 phase + delayed (ตาม liver protocol)
  • วินิจฉัยจากภาพได้เลย หากเข้าเกณฑ์ LI-RADS LR-5 (หรือ OPTN class 5 ในผู้รอปลูกถ่าย):
    • APHE แบบ non-rim” + washout (PV/delayed) ± capsule โดยผูกกับขนาดตามเกณฑ์
  • ไม่เข้า LR-5:
    • LR-3: ติดตามภาพ 3–6 ด.
    • LR-4: MDT พิจารณา ติดตาม/เปลี่ยน modality/ตัดชิ้นเนื้อ/รักษาเชิงสันนิษฐาน (กรณีเหมาะสม)
    • LR-M: สงสัยมะเร็ง non-HCC สูง มักต้อง ตัดชิ้นเนื้อ
  • ข้อควรทราบ: CEUS ใช้ยืนยันรอยโรคเดี่ยวที่เห็นบน US ได้ดี แต่ ไม่ใช้ staging ทั้งตับ; ผู้มีความเสี่ยงต่ำมัก ต้องชีวพยาธิแม้ภาพเข้าเกณฑ์

เลือกเครื่องมือภาพถ่าย

  • MRI (gadolinium) ความไวโดยรวมดีกว่า CT สำหรับรอยโรค 3 ซม.; พิจารณา gadoxetate (หลีกเลี่ยงเมื่อ bilirubin >~3 mg/dL)
  • CT 3-phase + delayed เมื่อ MRI ขัดข้อง/ข้อห้าม
  • ข้อห้าม/ระวัง: eGFR <30 (ไอโอดีน/แกโด), แพ้สารทึบรังสี, กลั้นหายใจไม่ได้

บทบาทการตัดชิ้นเนื้อ

  • ไม่แนะนำ สำหรับ LR-1/2/3/5
  • พิจารณา เมื่อ: non-high-risk liver, LR-4/LR-M ที่ผลมีผลต่อการรักษา, สงสัย CCA/HCC-CCA (CA19-9/CEA สูง), ต้องเกรด/โมเลกุล, เตรียม locoregional therapy/ปลูกถ่าย
  • ความเสี่ยง: ภาวะแทรกซ้อนเฉียบพลัน 1.5–2.6%, การหว่านกระจายตามเข็ม ~2–3%, ผลลบลวง (โดยเฉพาะ 2 ซม.) ใช้ core ช่วยเพิ่ม yield

หลังยืนยันการวินิจฉัย

  • Lab: LFT ชุดเต็ม, CBC/เกล็ด, BUN/Cr, PT/INR, อัลบูมิน, AFP, เซโรโลยี HBV/HCV
  • ภาพถ่าย staging: CT/MRI ตับแบบ protocol; CT ทรวงอก (พร้อมกันถ้าใช้ CT ช่องท้อง); bone scan เมื่อมีอาการกระดูก
  • ประเมินเพื่อรักษา: MDT (ตับ-ศัลย์-รังสีรักษา-รังสีวินิจฉัย/IR-มะเร็ง-ปลูกถ่าย) เพื่อคัดสรร ผ่าตัด/ปลูกถ่าย/ทำลายเฉพาะที่/ระบบ

 

เคล็ดลับเวชปฏิบัติ

  • ผู้เสี่ยงสูงทุกคนควรอยู่ใน surveillance ทุก 6 เดือนด้วย US ± AFP
  • เมื่อ US พบก้อน 1 ซม. ในผู้เสี่ยงสูง ให้ข้ามไป CT/MRI ตาม liver protocol ทันที
  • AFP ปกติไม่ตัด HCC และ AFP สูงไม่ใช่ HCC เสมอไปตีความร่วมกับภาพและบริบท
  • รายที่รอปลูกถ่าย: ใช้ เกณฑ์ OPTN และระวังความต่างจาก LI-RADS (เช่น ก้อน 10–19 มม. ต้องมี capsule ร่วมกับ APHE+washout)

Surveillance มะเร็งตับ (HCC) ในผู้เสี่ยงสูง

ทำไมต้องเฝ้าระวัง

  • เป้าหมาย: เจอโรคระยะยังไม่มีอาการ รักษาได้หายขาดมากขึ้น
  • หลักฐานสำคัญ
    • HBV RCT (19,200 คน): U/S+AFP ทุก 6 ด. ลดการตายจาก HCC ~37%
    • Meta-analysis (>140,000 เคส HCC): การพบด้วย surveillance ลดอัตราตาย (HR ~0.67) และเพิ่มโอกาสเจอระยะต้น/ได้การรักษาแบบหายขาด

ใครควรเข้าโปรแกรม (ทำเมื่อ “ถ้าพบ HCC ยังรักษาได้”)

  • ตับแข็งทุกสาเหตุ: Child-Pugh A–B และ Child-Pugh C เฉพาะผู้รอปลูกถ่าย
    (Incidence ปีละ >1.5% คุ้มค่า)
  • HBV ไม่มีตับแข็ง หากมีอย่างน้อยหนึ่งข้อ:
    • ไวรัสทำงาน (ALT สูง/โหลดไวรัสสูง >100,000 copies/mL >20,000 IU/mL)
    • ประวัติครอบครัว HCC (ญาติสายตรง)
    • มาจากแอฟริกา (เริ่มตรวจทันทีที่วินิจฉัย HBV)
    • มาจากประเทศชุกชุม: ชาย >40 ปี, หญิง >50 ปี
    • PAGE-B 10 (หรือ PAGED-B สูง)

กลุ่ม HBV ที่ระบุกว่า Incidence >0.2%/ปี คุ้มค่า

  • HCV ระยะพังผืดลุกลาม (F3): แนะนำ surveillance (แม้หลังได้ SVR ความเสี่ยงยังคงอยู่)
  • กลุ่มพิเศษ: Neurovisceral porphyria (เช่น AIP, HCP, VP) ควร surveillance แม้ไม่มีตับแข็ง

ทำ “อะไร” และ “บ่อยแค่ไหน”

  • มาตรฐานแรก: Ultrasound (U/S) ช่องท้องทุก 6 เดือน
    • ไม่สั้นกว่า 6 เดือนแม้เสี่ยงสูง (ขึ้นกับอัตราโตของก้อน ไม่ใช่ระดับความเสี่ยง)
    • ความไว U/S ต่ำลงในตับแข็ง/อ้วน/พารินไคมาหยาบ
  • เพิ่ม AFP?: ทำได้ (U/S+AFP q6mo) เพิ่มการตรวจพบโดยรวม/ระยะต้น แต่ “false positive” มากขึ้น
    AFP เดี่ยวๆ ไม่แนะนำแทนภาพถ่าย
  • เมื่อ U/S มองเห็นตับยาก (VIS-C; เช่น MASLD, แอลกอฮอล์, Child B–C, BMI 35)
    ใช้ ทางเลือก: multiphase CT หรือ abbreviated/contrast-enhanced MRI สำหรับ surveillance แทน/สลับ

เจอรอยโรคจาก U/S แล้วทำอย่างไร

  • <1 ซม.: น่าจะ benign ติดตาม U/S ทุก 3–6 เดือน × 2 ครั้ง
    • ถ้าหาย/คง <1 ซม. กลับไปเฝ้าระวังปกติ 6 เดือน
    • ถ้าโต >1 ซม. หรือมีรอยใหม่ 1 ซม. หรือ AFP สูงขึ้น ไป CT/MRI dynamic (หรือ CEUS ถ้ามี แต่ยังต้อง CT/MRI เพื่อ staging หากเป็นมะเร็ง)
  • 1 ซม.: ทำ CT/MRI ตับตาม liver protocol (arterial/portal/delayed) เพื่อวินิจฉัยตาม LI-RADS
    • LR-5 วินิจฉัย HCC ได้เลย (ไม่ต้อง biopsy) เดินหน้าจัดการรักษา/ประเมินปลูกถ่าย
    • LR-3 ติดตามภาพ 3–6 เดือน
    • LR-4 ประชุม MDT: พิจารณาติดตาม/เปลี่ยน modality/biopsy/รักษาเชิงสันนิษฐาน
    • LR-M (สงสัย non-HCC) มักต้อง biopsy
    • หมายเหตุ: CEUS ใช้จำแนกรอยโรคเดี่ยวได้ดี แต่ ไม่สามารถ staging ทั้งตับ

จุดปฏิบัติสำคัญ/ข้อควรระวัง

  • Surveillance เฉพาะ ผู้ที่เป็นผู้สมัครรักษา หากเจอระยะแรก
  • AFP ปกติ ไม่ตัด HCC; AFP สูง ไม่จำเพาะ ตีความร่วมกับภาพและคลินิก
  • หลัง รักษา HBV สำเร็จ (antiviral) ความเสี่ยง HCC ลดลงแต่ไม่เป็นศูนย์ ยังควร surveillance ตามความเสี่ยง
  • HCV ได้ SVR แต่มี F3/ปัจจัยเสี่ยงอื่น (เช่น MASLD, DM, อ้วน) ยังควร surveillance
  • ทางเลือก CT/MRI สำหรับ surveillance: พิจารณาในรายที่ U/S คุณภาพจำกัด; ตระหนักข้อจำกัดเรื่องรังสี/คอนทราสต์/ค่าใช้จ่าย

การปรับตามความเสี่ยง (Precision surveillance)

  • HBV ไม่ตับแข็ง:
    • PAGE-B / PAGED-B: ใช้เกรดความเสี่ยง (เช่น PAGED-B 7 HCC incidence ~1.1%/ปี) เน้นความเข้ม surveillance
    • REACH-B / revised REACH-B: ใช้ในผู้ไม่ได้ antiviral (อิงอายุ เพศ ALT HBeAg HBV DNA)
    • PLAN B-CURE: พิจารณาปัจจัยเมตาบอลิซึมหลัง HBsAg clearance
  • ใช้ร่วมกับปัจจัยคลินิก (เช่น ครอบครัว HCC, เพศชาย, อายุ, แอฟริกา/เอเชียชุกชุม, ไวรัสทำงาน, MASLD/DM/อ้วน)

 

สรุป Workflow สั้นๆ

1.       ระบุ “ผู้เสี่ยงสูงที่รักษาได้” เข้าโปรแกรม

2.       ทำ U/S q6mo ± AFP (หรือ CT/MRI หาก U/S จำกัด)

3.       พบก้อน <1 ซม. U/S 3–6 ด. ×2; 1 ซม. CT/MRI liver protocol

4.       จัดหมวด LI-RADS LR-5 รักษาเลย, LR-3/4/M MDT ตัดสินใจ (ติดตาม/เปลี่ยนภาพ/biopsy)

5.       ต่อเนื่อง surveillance แม้หลังควบคุมไวรัส/ได้ SVR หากยังเสี่ยง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น