วันพฤหัสบดีที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2568

Hepatorenal Syndrome – Acute Kidney Injury (HRS-AKI)

Hepatorenal Syndrome – Acute Kidney Injury (HRS-AKI)

ภาพรวมเร็ว

  • พบเฉพาะ ผู้ป่วย cirrhosis + ascites ที่เกิด AKI แบบเฉียบพลัน และ ตัดสาเหตุอื่นออกแล้ว
  • พยากรณ์โรคแย่หากไม่ได้รักษา ต้อง วินิจฉัยไว และ เริ่มการรักษาเฉพาะทาง (ดูหัวข้อการรักษาแยกต่างหาก)

พยาธิกำเนิดย่อ

  • Splanchnic vasodilation effective arterial volume ชดเชยด้วย RAAS/SNS/ADH renal vasoconstriction มากขึ้นจน GFR ลด
  • Systemic inflammation/ACLF เสริมการขยายหลอดเลือดและทำลาย microcirculation ไต ซ้ำเติม AKI
  • Cirrhotic cardiomyopathy ทำให้คง high output ไม่ได้ ไตขาดเลือด

ลักษณะทางคลินิกที่พบบ่อย

  • ไม่มีความดันโลหิตสูง, proteinuria น้อย/ไม่มี, urine sediment มักปกติ, Urine Na ต่ำมาก (<10–20 mmol/L)

ข้อยกเว้น: CKD เดิม/ใช้ diuretics urine Na อาจไม่ต่ำ, อาจพบ hematuria จากสายสวน หรือ bilirubin-stained casts

ตัวกระตุ้นที่พบบ่อย: การติดเชื้อ (เช่น SBP), GI bleeding, over-diuresis, lactulose-induced diarrhea, LVP โดยไม่ให้สารทดแทน, alcoholic hepatitis


ปัญหาในการประเมินไต

  • Sarcopenia ทำให้ Scr ต่ำกว่าความจริง (โดยเฉพาะผู้หญิง) ประเมินความรุนแรง อย่าพึ่ง Scr อย่างเดียว
  • eGFR จาก cystatin C/GRAIL อาจดีกว่าในภาวะคงที่ แต่ ยังไม่ใช้สำหรับ AKI staging (KDIGO ยังใช้ Scr)

เมื่อใดควรสงสัย HRS-AKI

  • ผู้ป่วย cirrhosis + ascites มี AKI ใหม่ (แม้ไม่มีสาเหตุชัดเจน)
  • โดยเฉพาะเมื่อ hypotension/ติดเชื้อ/เลือดออก/การให้ยา ไม่ชัดเจนหรือแก้แล้วไม่ดีขึ้น

เกณฑ์วินิจฉัย (แนว ICA 2015; วินิจฉัยเชิงคลินิก)

ต้องครบทั้งหมด:

1.       Cirrhosis + ascites

2.       AKI ตาม KDIGO: Scr 0.3 mg/dL ใน 48 ชม. หรือ 1.5× baseline ภายใน 7 วัน (ไม่ใช้ urine output เป็นเกณฑ์หลักใน cirrhosis)

3.       ไม่มีหลักฐานสาเหตุอื่นของ AKI:

o   ไม่อยู่ในช็อก, ไม่มี nephrotoxins ล่าสุด, ไต US ปกติ (ถ้าไม่มี CKD เดิม)

o   ไม่มีหลักฐาน GN/ATN ชัดเจน: proteinuria ชัดเจน (>500 mg/d ถ้าไม่มีโรคเดิม), hematuria/เม็ดเลือดแดงรูปแบบ GN, muddy casts ชัด

4.       ไม่ดีขึ้นหลัง “albumin challenge + หยุด diuretics 2 วัน”

o   Albumin 25% IV 1 g/kg/d (สูงสุด 100 g/d) 1–2 วัน (แบ่งให้ได้) + หยุด diuretics

o   ถ้า ไม่มี volume overload จึงค่อยให้ (มี overload หลีกเลี่ยง/พิจารณาลดขนาด)

บางศูนย์ใช้ 1 วันเพื่อไม่ชะลอการรักษา แต่ เสี่ยง over-diagnosisหลักฐานชี้ว่า ผู้ป่วยจำนวนมากตอบสนองใน 48 ชม.


การประเมินวินิจฉัย (Stepwise)

1.       ยืนยัน AKI + baseline Scr (ย้อนหลัง 7 วันถ้ามี)

2.       ค้นหาสาเหตุอื่นอย่างเป็นระบบ (เหมือน AKI ในรพ.ทั่วไป): volume loss, sepsis/ยา/สารทึบรังสี ฯลฯ

3.       คัดกรองการติดเชื้อทุกทาง; ทำ paracentesis หา SBP แม้ไม่มีอาการ

4.       Lab/Urine: UA, spot urine Na (ตีความระวังเมื่อใช้ diuretics), พิจารณา FeUrea (เหนือกว่า FENa บางกรณี), CBC/lytes/LFT/INR

o   FENa ช่วยน้อย: ATN ใน cirrhosis อาจมี FENa <1% ได้

o   NGAL (neutrophil gelatinase-associated lipocalin) ปัสสาวะ: อาจช่วยชี้ ATN แต่ ยังไม่กำหนด cut-off ใช้งานจริง

5.       POCUS/US ไต: ไซส์ไต/ทางเดินปัสสาวะ, volume status ช่วยตัดภาวะอุดกั้น/ไตเล็กจาก CKD

6.       Albumin challenge + หยุด diuretics 48 ชม.

o   ดีขึ้น Prerenal AKI มากกว่า HRS

o   ไม่ดีขึ้น และเงื่อนไขอื่นครบ HRS-AKI

7.       หลีกเลี่ยง biopsy ไต เว้นสงสัย GN/AIN ที่ เปลี่ยนการรักษา (เสี่ยงเลือดออกสูง)


แยกโรคสำคัญ (Differential)

  • Prerenal AKI: volume loss/vasodilation ดีขึ้นหลังให้สารน้ำ/แก้ hypotension
  • ATN: sepsis/ช็อก/nephrotoxin; sediment อาจมี muddy casts (สับสนกับ bilirubin-stained casts ได้)
  • GN/vasculitis: proteinuria/hematuria เด่น, RBC casts; สัมพันธ์ HBV/HCV ได้
  • Obstruction/อื่น ๆ: US ผิดปกติ, bile cast nephropathy, abdominal compartment pressure สูง

สิ่งที่ “เน้นย้ำไม่พลาด”

  • ทำ paracentesis หา SBP เสมอ เมื่อมี AKI ใน cirrhosis (แม้ไม่มีอาการ)
  • หยุดยาเสี่ยงไต/ลดความดัน (ACEI/ARB/NSBB ถ้า hypotension/AKI, NSAIDs) ระหว่างประเมิน
  • ตีความ Scr อย่างระมัดระวัง (sarcopenia) — การ “เพิ่มขึ้นสัมพัทธ์” มีความหมายทางพยากรณ์มาก
  • อย่าอาศัย FENa เพียงอย่างเดียว ในการแยก ATN vs HRS/prerenal ใน cirrhosis

 

Mini-Checklist (วอร์ด/ICU)

  • Cirrhosis+ascites + AKI ค้นหาสาเหตุอื่นครบ + tap ascites
  • งด nephrotoxins/ยาลด BP ที่ไม่จำเป็น, แก้ hypotension/sepsis
  • Albumin 25% 1 g/kg/d (100 g/d) x 2 วัน + hold diuretics ถ้าไม่ overload
  • ถ้า ไม่ตอบสนองภายใน 48 ชม. และเข้าเกณฑ์อื่น วินิจฉัย HRS-AKI และ เริ่ม vasoconstrictor therapy (อ้างถึงแนวทางการรักษา)
  • พิจารณา LT referral/ICU escalation ตามความรุนแรง

การรักษาและพยากรณ์โรค

หลักคิดสำคัญ

  • definitive therapy = Liver transplant (LT); ยาเป็น สะพาน (bridge) ไป LT
  • เริ่มจาก ค้นหา/แก้ไขปัจจัยกระตุ้น, รักษา circulatory failure และ เลี่ยง nephrotoxins/hypotension

General measures (ทำทุกเคส)

  • คัดกรอง/รักษาการติดเชื้อทันที (เช่น SBP) – ให้ยาครอบคลุมถ้าสงสัยสูง แล้วหยุดหากผลไม่สนับสนุน
  • รักษาปริมาตรเลือดให้อยู่ใน intravascular space
    • หยุด diuretics, ปรับ lactulose เลี่ยงถ่ายเหลว
    • ให้เลือดตามความจำเป็นใน GI bleeding
    • หลีกเลี่ยง LVP ปริมาณมาก ใน HRS-AKI (แม้มีคอลลอยด์ทดแทน) หากทำจำเป็น ให้เฝ้าระวัง hemodynamics อย่างใกล้ชิด
  • หยุด nonselective β-blocker (NSBB) ระหว่าง HRS-AKI (เสี่ยงความดันตก/ต้านฤทธิ์ยาเพิ่มความดัน) และวางแผน EVL ถ้าจำเป็น

Vasoconstrictor + Albumin = แกนหลักของการรักษา

เป้าหมาย: เพิ่ม MAP 10 mmHg และ ลด Scr เพิ่ม renal perfusion

1) ยาหลัก: Terlipressin (ร่วมกับอัลบูมิน)

  • ข้อบ่งชี้: HRS-AKI ที่เข้าเกณฑ์ และไม่มีข้อห้าม
  • ข้อห้ามเด็ดขาด: Hypoxia/SpO <90%, อาการหายใจแย่ลง, ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจ/ลำไส้/แขนขาขาดเลือด
  • ข้อควรหลีกเลี่ยง (relative): Scr >5 mg/dL, ACLF grade 3 (3 organ failures), TBili >10 mg/dL (บางสำนักไม่กำหนด cut-off)
  • ขนาดยา
    • Bolus: 1 mg IV q6h ถ้า Scr <30% ใน 3 วัน เพิ่มเป็น 2 mg q6h (สูงสุดตามข้อบ่งชี้/ความทน)
    • Continuous infusion: เริ่ม 2 mg/day IV ถ้า Scr <25% ใน 48 ชม. เพิ่มเป็น 4 mg/day; ปรับขึ้นทีละ 2 mg ทุก 2 วัน (สูงสุด 12 mg/day)
    • หมายเหตุ: 0.85 mg terlipressin = 1 mg terlipressin acetate
  • หลักฐาน: reversal ~40%; ไม่ชัดว่าเพิ่ม transplant-free survival แต่ลด ICU stay/KRT บางการวิเคราะห์
  • ระวังสำคัญ: pulmonary edema/respiratory failure (เสี่ยงสูงใน ACLF grade 3) งดให้ถ้า hypoxia/หายใจแย่ลง

2) ถ้า ไม่มี/ห้ามใช้ terlipressin

  • Norepinephrine (NE) + Albumin (มักต้อง ICU)
    • ขนาด: 0.5–3 mg/h IV ผ่าน central line; ปรับเพื่อ MAP >10 mmHg (ไม่ไล่ความดันหากสูงเกิน)
    • เหมาะใน: ผู้ป่วยวิกฤตต้อง vasopressor, หรือผู้มี hypoxia/เสี่ยงน้ำท่วมปอด (NE มี inotropy และไม่ทำ pulmonary venoconstriction)
    • เฝ้าระวัง: arrhythmia/ischemia
  • Midodrine + Octreotide + Albumin (กรณี non-ICU/ใช้ NE ไม่ได้ และไม่มุ่ง LT)
    • Midodrine PO: เริ่ม 7.5–10 mg แล้วไต่ทุก 8 ชม. จนถึง 30 mg PO TID (มุ่ง MAP >10 mmHg)
    • Octreotide: 50 mcg/h IV ต่อเนื่อง หรือ 100–200 mcg SC TID
    • หลักฐานจำกัด/ด้อยกว่า terlipressin; ใช้เมื่อไม่มีทางเลือก

3) Albumin adjunct

  • ใช้ 20–25% albumin 20–40 g/day IV ร่วม vasoconstrictor ถ้าไม่ overload
  • เพิ่มขนาดเมื่อดูแห้ง/ภาวะไหลเวียนต่ำ; หยุดทันที หากมี volume overload/ปอดบวมน้ำ
  • ความเสี่ยง overload สูงกว่าเมื่อใช้ร่วม terlipressin มากกว่า NE

Monitoring ระหว่างรักษา

  • Ischemia: cardiac/mesenteric/peripheral หยุดยาเมื่อมีเหตุการณ์รุนแรง
  • หายใจ/น้ำเกิน: pulse ox, อาการปอดบวมน้ำ; ใช้ POCUS ช่วยประเมินปริมาตร
  • Lab: Scr, lytes, LFT, lactate; ติดตาม MAP/diuresis
  • อาการทาง GI จาก terlipressin (ปวดท้อง/ท้องเสีย) ลดขนาด/เปลี่ยนเป็น continuous

ระยะเวลาการรักษา/เกณฑ์หยุด

  • ให้ สูงสุด 14 วัน
  • หยุด ถ้า:
    • ไม่ตอบสนอง ภายใน 3 วัน (Scr ไม่ดีขึ้น), หรือ
    • Scr ใกล้ baseline (+0.3 mg/dL), หรือ
    • เกิด อาการไม่พึงประสงค์รุนแรง, เริ่ม KRT, ได้ LT, หรือครบ 14 วัน

หาก “ไม่ตอบสนอง”

  • KRT: พิจารณาเฉพาะ ผู้สมัคร LT (นอกนั้นพยากรณ์แย่มาก/ภาวะแทรกซ้อนสูง)
  • ไม่ใช้ TIPS สำหรับ HRS-AKI (ไม่มีหลักฐานประสิทธิผล และเสี่ยงแย่ลงทั้งไต/ตับ/สมอง)

Liver Transplant (LT)

  • ควรส่งประเมิน LT ทุกเคสที่ไม่มีข้อห้าม
  • การตอบสนองต่อ vasoconstrictor ดีต่อ survival ก่อน LT และ ลด CKD หลัง LT แม้ MELD อาจลดลงชั่วคราว

พยากรณ์โรค

  • ไม่ได้รักษา: อยู่รอดระดับ วัน–สัปดาห์
  • ได้ LT: ผลลัพธ์ดี เทียบเท่าผู้ป่วยที่ไม่มี HRS-AKI
  • ไม่ได้ LT: พยากรณ์แย่ (เช่น 90-day mortality 50% ใกล้เคียง ATN; หากเริ่ม dialysis และไม่อยู่ในรายชื่อ LT อยู่รอด 6 เดือนเพียง ~15%)
  • Responder ต่อ terlipressin มี 90-day TFS ดีกว่า non-responder (ประมาณ 70% vs 41%)

การป้องกัน HRS-AKI

  • ติดตามไต ในผู้ใช้ diuretics; หลีกเลี่ยง over-diuresis/lactulose เกิน
  • Albumin เมื่อ LVP ปริมาณมาก
  • ป้องกัน/รักษา SBP ไว + พิจารณา secondary prophylaxis ตามข้อบ่งชี้
  • เลี่ยง ACEI/ARB/NSAIDs และปรับ NSBB ตาม hemodynamics

 

Mini-Algorithm (เบดไซด์)

1.       ยืนยัน HRS-AKI และ หยุด diuretics/NSBB/เนโฟรท็อกซิน รักษาปัจจัยกระตุ้น

2.       ถ้าไม่ overload: Albumin 20–40 g/day เริ่มคู่กับ vasoconstrictor

o   Terlipressin (bolusหรือ CI) หรือ NE (ICU); ทางเลือกรอง: Midodrine+Octreotide

3.       ประเมิน 48–72 ชม.:

o   ดีขึ้น เดินหน้าต่อ จนเงื่อนไขหยุด

o   ไม่ดีขึ้น 3 วัน/มี AE หยุด/เปลี่ยนกลยุทธ์, ประเมิน KRT เฉพาะผู้รอ LT

4.       ส่ง LT เร็วที่สุด + ประสาน Palliative care เมื่อต้องการเป้าหมายเพื่อคุณภาพชีวิต


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น